ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ข่าวสหรัฐกดดันอิหร่าน ดันน้ำมันพุ่งปิดที่ 90.23$

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 90 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) หลังจากมีข่าวว่าสหรัฐพยายามเรียกร้องให้นานาประเทศกดดันอิหร่าน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับอิทธิพลจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง และการคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจจีนจะร้อนแรงขึ้นอีก
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 2.74 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 90.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 85.82-90.35  ดอลลาร์
          ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.57 เซนต์ หรือ 2.2% ปิดที่ 2.5450 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.ดีดขึ้น 8.43 เซนต์ หรือ 3.8% ปิดที่ 2.3013 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
          ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.69  ดอลลาร์ ปิดที่ 90.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          นักลงทุนส่งคำสั่งซื้อสัญญาน้ำมันดิบเดือนม.ค.อย่างหนาแน่น หลังจากมีข่าวว่าดร.คอนโดลิสซา ไรซ์ รมว.ต่างประเทศสหรัฐเรียกร้องให้ประเทศยุโรปและรัสเซียร่วมกันกดดันอิหร่านให้ยุติโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมและยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ทั้งหมด โดยกล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐยังคงเดินหน้าโดดเดี่ยวอิหร่านต่อไป
          นายเจมส์ คอร์ดิเยร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทลิเบอร์ตี้ เทรดดิ้งกล่าวว่า "ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและสหรัฐทำให้เทรดเดอร์กังวลว่าอาจลุกลามไปสู่ความขัดแย้งทั่วโลก และอาจทำให้ประเทศตะวันออกกลางระงับการส่งออกน้ำมันไปยังประเทศฝั่งตะวันตก"
          นอกจากนี้ การที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ยิ่งทำให้ราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆน่าดึงดูดใจในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากธุรกรรมการซื้อขายเหล่านี้อยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์
          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กได้รับอิทธิพลจากข้อมูลขององค์กรเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) ที่ระบุว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวเกือบ 11.5% ในปีนี้ โดยก่อนหน้านี้ OECD คาดว่า GDP จีนปีนี้จะขยายตัว 10.4%
          "เศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวขึ้นย่อมหมายความว่าความต้องการพลังงานจะเพิ่มขึ้นด้วย" นายคอร์ดิเยร์กล่าว
          ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) มีมติให้คงกำลังการผลิตน้ำมันไว้เท่าเดิมที่ 27.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังจากที่โอเปคได้ตัดสินใจเพิ่มปริมาณการผลิต 500,000 บาร์เรลต่อวันในการประชุมเดือนก.ย. โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นมา
          โดยโอเปคกล่าวในแถลงการณ์ว่า ปริมาณน้ำมันสำรองอยู่ในระดับที่สามารถรองรับความต้องการได้ในระยะ 5 ปี และราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นเป็นผลมาจากการเก็งกำไร สถานการณ์ด้านการเมืองระหว่างประเทศ และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง