ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) อย่างไรก็ตาม ราคาได้ถอยร่นลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวัน หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ซึ่งน้อยกว่าที่นักลงทุนจำนวนมากคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับอิทธิพลจากข่าวที่ว่าพายุน้ำแข็งได้ทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าขัดข้องในแถบมิดเวสท์ และหมอกลงจัดได้ทำให้การขนส่งน้ำมันในแถบกัลฟ์โคสต์ของรัฐเท็กซัสล่าช้า
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 2.16 ดอลลาร์ หรือ 2.46% ปิดที่ 90.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 87.92-90.55 ดอลลาร์ หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสุงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค.ที่ระดับ 90.68 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 4.56 เซนต์ ปิดที่ 2.5230 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 4.13 เซนต์ ปิดที่ 2.2914 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 89.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นอีก 0.25% สู่ระดับ 4.25% แต่ก่อนหน้านี้นักลงทุนจำนวนมากคาดว่าเฟดจะลดอัตราลงเบี้ยลงถึง 0.50% ทั้งนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงและดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้าเทรดในตลาดน้ำมันมากขึ้น เนื่องจากธุรกรรมการซื้อขายในตลาดอยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์
รายงานระบุว่าพายุน้ำแข็งในแถบมิดเวสท์ของสหรัฐทำให้ไฟฟ้าดับและเจ้าหน้าที่ต้องปิดท่อส่งน้ำมันและคลังเก็บเชื้อเพลิง นอกจากนี้ หมอกที่ลงจัดในแถบกัลฟ์โคสต์ของรัฐเท็กซัสทำให้การลำเลียงขนส่งน้ำมันล่าช้า จึงทำให้เรือบรรทุกน้ำมันต้องเบี่ยงไปใช้เส้นทางเข้าสู่เมืองฮุสตันและท่าเรือโบมอนท์-พอร์ท อาร์เธอร์ แต่คาดว่าจะมีหมอกลงอีกครั้งในช่วงเย็นวันอังคาร
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูข้อมูลน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธ (ตามเวลาประเทศไทย) โดยนักวิเคราะห์คาดว่า น้ำมันดิบสำรองอาจเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล น้ำมันกลั่นสำรองอาจเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล และน้ำมันเบนซินสำรองอาจเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--