ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: วิตกเงินเฟ้อ กดราคาน้ำมันร่วงปิดที่ 91.27$

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.ที่พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเผชิญภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงขึ้นและอาจทำให้ความต้องการพลังงานอาจปรับตัวลดลงด้วย
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ปิดร่วงลง 98 เซนต์ แตะระดับ 91.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.ปรับตัวลง 3.27 เซนต์ ปิดที่ 2.3417 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 0.68 เซนต์ ปิดที่ 2.6079 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 55 เซนต์ ปิดที่ 92.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ทั่วไปในเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น 0.8% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.7% และเป็นสถิติที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 2 ปี
          ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.เป็นต้นมา หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ติดต่อกันเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว
          นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานระบุว่าราคาพลังงานในสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.7% ในเดือนพ.ย. ซึ่งปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. ขณะที่ราคาอาหารดีดตัวขึ้น 0.3% และราคาด้านการขนส่งพุ่งขึ้น 2.9%
          นักลงทุนกังวลว่าดัชนี CPI ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้น จะทำให้อำนาจซื้อของผู้บริโภคลดลงและทำให้ความต้องการพลังงานลดลงด้วย และการพุ่งขึ้นเกินคาดของดัชนี CPI อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยุติการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพราะที่ผ่านมานั้นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนกรูกันเข้าเทรดในตลาดน้ำมัน