สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เตือนว่า อาจเกิดภาวะพลังงานขาดแคลนทั่วโลก เนื่องจากบริษัทน้ำมันของรัฐบาลในประเทศต่างๆทั่วโลกกำลังเข้ามามีบทบาทในการควบคุมอุปทานพลังงานในตลาดโลกมากขึ้น
"กำลังการผลิตน้ำมันทั่วโลกควรจะเพิ่มขึ้นอีก 37.5 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2558 แต่มีการวางแผนที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตเพียง 25 ล้านบาร์เรลเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดช่องว่างระหว่างอุปสงค์และอุปทาน ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มโอเปค จะต้องเพิ่มกำลังการผลิตอีก ขณะที่กลุ่มประเทศที่ใช้น้ำมัน รวมถึงสหรัฐอเมริกา ก็ต้องปรับเปลี่ยนนโยบายเพื่อที่จะทำให้ความต้องการใช้พลังงานลดลงด้วย" นายฟาตีห์ บิรอล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ IEA กล่าว
ทั้งนี้ นายบิรอลกังวลว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะปล่อยให้ผลประโยชน์ทางการเมืองเข้าไปครอบงำผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจทั่วโลก อีกทั้งกล่าวว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ในตะวันออกกลางและเวเนซูเอล่า ต่างก็มีแหล่งสำรองพลังงานขนาดใหญ่ ซึ่งประเทศเหล่านี้จะใช้วิธีทางการเมืองเข้ามาเป็นปัจจัยกำหนดภาวะอุปทานในตลาดโลกมากขึ้น
เมื่อไม่นานมานี้ นายฮูโก ชาเวซ ประธานาธิบดีเวเนซูเอล่าได้ขู่ว่าจะระงับการส่งออกน้ำมันให้กับสหรัฐ หากสหรัฐเข้ามาแทรกแซงกระบวนการทางการเมืองภายในประเทศ โดยสหรัฐเป็นผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่สุดของเวเนซูเอล่า
"เพื่อให้ทั่วโลกมีกำลังการผลิตที่เพียงพอ อุตสาหกรรมน้ำมันจำเป็นต้องลงทุนอีกประมาณ 5.4 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้จนถึงปี 2573 นอกจากนี้ กลุ่มประเทศที่ใช้น้ำมันรายใหญ่ของโลก ซึ่งรวมถึง จีน สหรัฐ และแคนาดา จะต้องใช้นโยบายที่จะช่วยลดความต้องการพลังงาน ซึ่งหากขาดการดำเนินการใน 2 เรื่องนี้ ก็จะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิต" นายบิรอลกล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--