ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 60 เซนต์เมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) หลังจากราคาเคลื่อตัวผันผวนตลอดทั้งวัน เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะเพิ่มปริมาณการผลิตในการประชุมวันพุธนี้หรือไม่
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ( New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 60 เซนต์ ปิดที่ 89.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.ดีดขึ้น 1.95 เซนต์ ปิดที่ 2.2501 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 0.39 เซนต์ ปิดที่ 2.5111 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 89.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กลุ่มโอเปคจะประชุมร่วมกันในวันพุธที่ 5 ธ.ค.ที่เมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยตลอด 7 วันทำการที่ผ่านมา ราคาน้ำมันร่วงลงไปแล้วประมาณ 10 ดอลลาร์เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าโอเปคจะเพิ่มปริมาณการผลิต แต่หลังจากนั้นไม่นานราคาน้ำมันเริ่มดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่ากระแสคาดการณ์ดังกล่าวจะเป็นจริงหรือไม่ เมื่อพิจารณาจากการแสดงความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันของรัฐมนตรีกลุ่มโอเปค
โดยรัฐมนตรีพลังงานของเวเนซูเอล่าและกาตาร์กล่าวว่า "โอเปคไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณการผลิตอีก" ขณะที่รัฐมนตรีพลังงานของคูเวต อินโดนีเซีย และไนจีเรีย กล่าวว่า "มีความเป็นไปได้ที่โอเปคจะเพิ่มปริมาณการผลิต" และแม้แต่นายอาลี ไนมี รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นประเทศที่มีอิทธิพลที่สุดในกลุ่มโอเปค กล่าวว่า "โอเปคอาจจะเพิ่มปริมาณการผลิต"
ล่าสุด ประธานาธิบดีมาห์หมุด อามาดิเนจ้าด ของอิหร่นกล่าวกับดาวโจนส์ นิวส์ไวร์ ว่า เขาไม่เห็นด้วยที่โอเปคจะเพิ่มการผลิตน้ำมัน ซึ่งต่อมานายซูกรี กาเน็ม รัฐมนตรีพลังงานของลิเบียก็ออกมาสนับสนุนความคิดเห็นดังกล่าว
"การแสดงความคิดเห็นของรัฐมนตรีกลุ่มโอเปคขัดแย้งกันเองมาตลอด ภาพรวมในตลาดเวลานี้คลุมเคลือและไร้ทิศทาง ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่จดจ่ออยู่ที่การประชุมโอเปค" นายเอ็ดเวริ์ด แมร์ นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟ โกลบอลกล่าว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--