ราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์พุ่งแตะ $88.15 ขณะนลท.จับตาการประชุมเฟดคืนนี้

          ราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ (11 ธ.ค.) ก่อนหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะมีข้อสรุปเรื่องการปรับลดดอกเบี้ยในที่ประชุมคืนนี้ ซึ่งนักลงทุนมองว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงกระตุ้นอุปสงค์น้ำมันดิบในตลาดโลก
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนม.ค. และได้มีการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 29 เซนต์ แตะระดับ 88.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กนี้เมื่อคืนนี้ที่ 87.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 
          ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 22 เซนต์ แตะระดับ 88.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะที่ 89.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลที่ตลาดลอนดอนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านก่อนที่จะปรับตัวลดลง
          นายวิคเตอร์ ชุม นักวิเคราะห์จากบริษัทเปอร์วิน แอนด์ เกิร์ทซ์ ในสิงคโปร์กล่าวว่า "ผมคาดว่าราคาน้ำมันอาจผันผวนในสัปดาห์นี้ เนื่องจาก กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐเป็นปัจจัยลบที่สำคัญที่มีผลต่อราคาสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า แต่ราคาน้ำมันอาจได้รับปัจจัยหนุนอยู่บ้างจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในที่ประชุมคืนนี้
         ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.50% มาอยู่ที่ระดับ 4.25%
          หลังจากที่ราคาน้ำมันพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เฉียดระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปลายเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบก็เริ่มอ่อนตัวลง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานขึ้นได้สิ้นสุดลงแล้ว หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปค) ได้ข้อสรุปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ตรึงกำลังการผลิตน้ำมันดิบต่อวันในระดับเดิมที่ 27.25 ล้านบาร์เรล
          นอกจากนี้ นายชุมกล่าวว่า ในช่วงใกล้จะถึงสิ้นปีนี้ นักลงทุนหลายรายต่อพากันเทขายทำกำไรออกมาเพื่อหวังที่จะได้ผลตอบแทนประจำปีที่เพิ่มขึ้น