ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX:วิตกศก.สหรัฐชะลอตัว กดราคาน้ำมันร่วงปิดที่ 87.86$

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 42 เซนต์เมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของสหรัฐอาจทำให้ความต้องการพลังงานลดลงด้วย
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ปิดลดลง 42 เซนต์ แตะระดับ 87.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.ปิดรูดลง 2.73 เซนต์ แตะระดับ 2.4774 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.ปิดลดลง 1.89 เซนต์ แตะระดับ 2.2501 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.ปิดร่วงลง 60 เซนต์ แตะระดับ 88.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          นายเจมส์ คอร์ดิเยร์ ประธานบริษัทลิเบอร์ตี้ เทรดดิ้ง คอร์ป กล่าวว่า นักลงทุนแห่เทขายสัญญาน้ำมันดิบหลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง และอาจทำให้ความต้องการพลังงานลดลงด้วย 
          สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันทั่วโลกโดยเฉลี่ยในปี 2550 จะอยู่ที่ระดับ 85.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งปรับตัวจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ประมาณ 160,000 บาร์เรลต่อวัน และคาดว่าความต้องการน้ำมันโดยรวมในไตรมาส 4 ปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 87.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในก่อนหน้านี้ถึง 500,000 บาร์เรลต่อวัน 
          นอกจากนี้ IEA ประเมินว่า ความต้องการน้ำมันในปี 2551 จะมีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 87.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งปรับตัวลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ประมาณ 300,000 บาร์เรลต่อวัน
          นักลงทุนจับตาดูข้อมูลน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า น้ำมันดิบสำรองอาจเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล น้ำมันกลั่นสำรองอาจเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล และน้ำมันเบนซินสำรองอาจเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล
          นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความต้องการน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินมีแนวโน้มชะลอตัวลง แม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) เพิ่มปริมาณการผลิตก็ตาม โดยในเดือนพ.ย.ปริมาณการผลิตของโอเปคพุ่งขึ้นเป็น 31.15 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 40,000 บาร์เรลต่อวันจากในเดือนต.ค.