กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 7 มี.ค.พุ่งขึ้น 6.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 311.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ดาวโจนส์ นิวส์ไวร์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.7 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 236 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 100,000 บาร์เรลและเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 18 ติดต่อกัน ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมน้ำมันฮีทติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 166.4 ล้านบาร์เรล แต่ลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 2 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมัน ลดลง 0.9 % สู่ 85.0 %
สต็อคน้ำมันข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ ประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปี 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--