ภาวะตลาดทองคำ NYMEX: ราคาทองปิดบวก 13.30$ หลังพุ่งทะลุแนวต้าน 1,000$

          ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (13 มี.ค.) โดยในระหว่างวันนั้น ราคาทองทะยานขึ้นผ่านแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,000 ดอลลาร์/ออนซ์ได้สำเร็จ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงได้ดึงดูดนักลงทุนให้เข้าซื้อทองคำอย่างคึกคัก
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 993.80 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 13.30 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 982.70-1,001.50 ดอลลาร์ 
          ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 20.42 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 42.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดลดลง 1.2 เซนต์ แตะระดับ 3.8250 ดอลลาร์/ปอนด์
          ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 2,097.50 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 27.50 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนมิ.ย.ปิดที่ 515.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ดีดขึ้น 5.00 ดอลลาร์
          จอห์น เนดเลอร์ นักวิเคราะห์จากคิทโก บุลเลียน ดีลเลอร์ ในเมืองมอนทรีอัล กล่าวว่า "การอ่อนตัวลงของสกุลเงินดอลลาร์ดึงดูดกลุ่มกองทุนให้ทุ่มซื้อโลหะมีค่า โดยเฉพาะทองคำ ซึ่งดอลลาร์ได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ และความกังวลในเรื่องนี้มีเพิ่มขึ้นเมื่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่ายอดค้าปลีกเดือนก.พ.ลดลง"
          "ราคาทองมีปฏิกริยาทันทีเมื่อค่าเงินดอลลาร์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปีเมื่อเทียบกับเงินเยน และดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับเงินยูโร โดยราคาทองทะยานขึ้นผ่านแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,000 ดอลลาร์/ออนซ์" เนดเลอร์กล่าว
          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.พ.ร่วงลง 0.6% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกที่ร่วงลงบ่งชี้ถึงความวิตกของผู้บริโภคและเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลงอย่างรุนแรง
          เนดเลอร์กล่าวว่า เทรดเดอร์ในตลาดทองคำจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 18 มี.ค.นี้ โดยคาดว่าหากเฟดลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกก็จะยิ่งฉุดดอลลาร์ให้ร่วงลง และหนุนราคาทองคำทะยานขึ้นอีก