ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ราคาน้ำมันขยับลงปิดที่ 110.21$ หลังดาวโจนส์ร่วง

ข่าวต่างประเทศ Saturday March 15, 2008 07:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลง จึงตัดสินใจเทขายสัญญาน้ำมันดิบ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดลดลง 12 เซนต์ แตะระดับ 110.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 2.17 เซนต์ ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.1465 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดเพิ่มขึ้น 0.66 เซนต์ แตะระดับ 2.6894 ดอลลาร์/แกลลอน
ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเอลารอน เทรดดิ้ง คอร์ป ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงจากข่าวที่ว่า แบร์ สเติร์นส์ ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 5 ของสหรัฐ ขอรับเงินกู้ฉุกเฉินจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เนื่องจากขาดสภาพคล่อง
"อย่างไรก็ตาม กระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมสัปดาห์หน้า ทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบในวงจำกัด และทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงไม่มากนัก ทั้งนี้ก็เพราะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงอีก และจะทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีราคาถูกลง" ไฟนน์กล่าว
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ประกาศคงคาดการณ์อัตราการขยายตัวของความต้องการน้ำมันทั่วโลกไว้เท่าเดิมที่ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับเฉลี่ยที่ 87 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการคาดการณ์ครั้งก่อน
"แม้ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและราคาขายปลีกน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงจะถูกมองว่าเป็นตัวแปรหลักสำหรับความต้องการน้ำมันในปีนี้ แต่สภาพอากาศก็มีอิทธิพลต่อความต้องการน้ำมันเช่นกัน" นักวิเคราะห์ประจำกลุ่มโอเปคกล่าว
ทั้งนี้ การคาดการณ์ของโอเปคสอดคล้องกับสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) ที่คาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2551 จะอยู่ที่ 87.54 ล้านบาร์เรล/วัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ