ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ราคาน้ำมันดิบพุ่งปิดที่ 109.42$ หลัง FED ลดดบ.

ข่าวต่างประเทศ Wednesday March 19, 2008 06:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 3.74 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (18 มี.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.75% ซึ่งช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นกว่า 400 จุด และทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวต่อไปได้อีก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดพุ่งขึ้น 3.74 ดอลลาร์ แตะระดับ 109.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดเพิ่มขึ้น 6.95 เซนต์ แตะระดับ 3.1379 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดเพิ่มขึ้น 15.58 เซนต์ แตะระดับ 2.66 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดพุ่งขึ้น 3.81 ดอลลาร์ แตะระดับ 105.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนแห่เข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบและสัญญาน้ำมันประเภทอื่นๆ หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดมีมติลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น (fed funds rate) ลงอีก 0.75% สู่ระดับ 2.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2547 และปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (discount rate) ลงอีก 0.75% สู่ระดับ 2.5% นอกจากนี้ เฟดยังส่งสัญญาณว่าอาจลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหากพบว่าเศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงที่จะเผชิญช่วงขาลง
จิม ริทเทอร์บุช ประธานบริษัทริทเทอร์บุช แอนด์ แอสโซซิเอทส์ ในรัฐอิลลินอยส์กล่าวว่า "การที่เฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.75% ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงอีกเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคับคั่ง เนื่องจากน้ำมันดิบซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งราคาสัญญาจะมีราคาถูกลงเมื่อดอลลาร์อ่อนตัวลง"
"นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถฝ่าฟันปัญหาในตลาดสินเชื่อไปได้ ขณะเดียวกันความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาในตลาดเชื่อผ่อนคลายลงทันทีที่เลห์แมน บราเธอร์ส และโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยผลประกอบการที่สูงเกินคาด" ริทเทอร์บุชกล่าว
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อคน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธ (ตามเวลาประเทศไทย) โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินอาจลดลง 300,000 บาร์เรล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ