ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลง 70 เซนต์เมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงของสหรัฐจะทำให้ความต้องการพลังงานลดลงด้วย นอกจากนี้ การที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นทำให้นักลงทุนบางกลุ่มปลีกตัวออกจากตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับตัวลง 70 เซนต์ ปิดที่ 101.84 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 98.65 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 3.95 เซนต์ แตะระดับ 2.9772 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนเม.ย.ดีดขึ้น 4.48 เซนต์ ปิดที่ 2.6051 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดลดลง 34 เซนต์ แตะระดับ 100.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
เอ็ดเวิร์ด แมร์ นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟ โกลบอลกล่าวว่า "นักลงทุนจับตาดูความเคลื่อนไหวในตลาดปริวรรตเงินตราอย่างใกล้ชิดในขณะนี้ การที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นทำให้นักลงทุนและกลุ่มกองทุนแห่เทขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และหันเข้าเทรดในตลาดปริวรรตเงินตราอย่างคึกคัก"
"นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลกที่กำลังชะลอตัวลงจะทำให้ความต้องการพลังงานลดลงด้วย โดยเฉพาะรายงานล่าสุดจากกระทรวงพลังงานสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าการที่ราคาน้ำมันร่วงลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในขณะนี้นั้น เป็นเพียงการ"พักฐาน"ของตลาดเท่านั้น" แมร์กล่าว
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันประเภทอื่นๆปรับตัวลดลง 3.2% ส่วนความต้องการน้ำมันเบนซินลดลง 1%
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า สต็อคน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 14 มี.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 200,000 บาร์เรล สู่ระดับ 311.8 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล
ด้านราคาน้ำมันเบนซินปิดพุ่งขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันประเภทอื่นๆ หลังจากดาวโจนส์ นิวส์ไวร์รายงานว่า เกิดปัญหาด้านการผลิตที่โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทลีอองเดลล์บาเซลล์ อินดัสทรีส์ ในเมืองฮุสตัน ซึ่งโรงกลั่นน้ำมันแห่งนี้มีกำลังการผลิต 100,000 บาร์เรล/วัน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--