ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 98 เซนต์เมื่อคืนนี้ (24 มี.ค.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้นทำให้นักลงทุนปลีกตัวออกจากตลาดพลังงานและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ เพื่อหันไปซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตรา
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดร่วงลง 98 เซนต์ แตะระดับ 100.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดลดลง 1.41 เซนต์ แตะระดับ 2.9631 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดลดลง 0.4 เซนต์ แตะระดับ 3.26 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 52 เซนต์ ปิดที่ 99.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
เอดิสัน อาร์มสตร็อง หัวหน้านักวิเคราะห์จากทีเอสเอฟ เอนเนอร์จี ฟิวเจอร์ส ในรัฐคอนเน็กติกัต กล่าวว่า "นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ น้ำมัน จะน่าสนใจก็ต่อเมื่อสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เพราะสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้ซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ แต่ทันทีที่ดอลลาร์แข็งขึ้น สัญญาเหล่านี้จะมีราคาแพงขึ้นทันที โดยเฉพาะในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ"
"นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าการอ่อนตัวลงของสกุลเงินดอลลาร์เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 112 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว เห็นได้ชัดว่า ขณะนี้ทิศทางของค่าเงินดอลลาร์เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อตลาดพลังงานและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อย่างมาก" อาร์มสต็องกล่าว
สกุลเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นหลังจากมีข่าวว่าเจพีมอร์แกนประกาศเพิ่มข้อเสนอซื้อกิจการแบร์ สเติร์นส์ จากเดิมที่ระดับ 2 ดอลลาร์/หุ้น เป็น 10 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะคลายความวิตกกังวลให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นของแบร์ สเติร์นส์ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นกว่า 180 จุดเมื่อคืนนี้ด้วย
"อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้จะเป็นเพียงภาวะระยะสั้นๆ เพราะเชื่อว่าสกุลเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลง และคาดว่าจะมีนักเก็งกำไรหรือเฮดจ์ฟันด์เข้าช้อนซื้อสัญญาน้ำมันดิบอีก" อาร์มสตร็องกล่าว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--