ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOTแรงซื้อเก็งกำไรหนุนราคาพืชผลพุ่ง

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวานนี้ (24 มี.ค.) สัญญาพืชผลทะยานอย่างแข็งแกร่งหลังจากที่ถูกเทขายอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 
          นักวิเคราะห์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้การเทขายของเฮดจ์ฟันด์ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตั้งแต่ทองคำถึงสินค้าเกษตรร่วงลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนในวันนี้นักลงทุนบางส่วนยังคงดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ แต่ผู้ซื้อรายใหม่ต่างเข้ามากว้านซื้อข้าวโพด ถั่วเหลือง และข้าวสาลี ที่กำลังมีราคาถูก
          "ตลาดได้รับแรงซื้อเก็งกำไรส่วนมากจากกลุ่มผู้เลี้ยงปศุสัตว์ ผู้ผลิตเอธานอล และผู้ส่องออก" เจสัน วาร์ด นักวิเคราะห์จากนอร์ธสตาร์ คอมโมดิตี้ ในมินนีอาโพลิส กล่าว
          สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่ง 32.5 เซนต์ ปิดที่ 10.20 ดอลลาร์ต่อบุชเชล หลังจากที่ทะยานแตะระดับ 10.62 ดอลลาร์ต่อบุชเชล โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสัญญาข้าวสาลีร่วงต่ำกว่าระดับ 10 ดอลลาร์ต่อบุชเชลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา และเคยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 13.495 ดอลลาร์ต่อบุชเชล เมื่อวันที่ 27 ก.พ.
          ด้านสัญญาพืชผลอื่นๆก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่ง 50 เซนต์ ปิดที่ 12.57 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค.ทะยาน 17.25 เซนต์ ปิดที่ 5.2475 ดอลลาร์ต่อบุชเชล          
          ในปีนี้ราคาพืชผลทะยานอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากการเพาะปลูกที่ซบเซาทั่วโลก ปริมาณพืชผลสำรองที่ลดลง รวมถึงอุปสงค์จากจีนและอินเดียที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง    
          นอกจากนั้นเหตุการณ์น้ำท่วมทางตอนใต้และมิดเวสท์ของสหรัฐก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งซึ่งหนุนให้ราคาพืชผลสูงขึ้น เนื่องจากการเพาะปลูกข้าวโพดต้องล่าช้าออกไป 
          "ต่อจากนี้สภาพอากาศจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสินค้าโภคภัณฑ์" นายวาร์ดกล่าว "ฤดูเพาะปลูกกำลังจะเริ่มขึ้น และนักลงทุนจะจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด" สำนักข่าวเอพีรายงาน