ราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์พุ่งแตะ 101.85 ดอลล์ ก่อนสหรัฐเผยสต็อกน้ำมัน

          ราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ (26 มี.ค.) ก่อนหน้าที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยสต็อกน้ำมันสำรองรายสัปดาห์  
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพ.ค. และได้มีการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 63 เซนต์ แตะที่ 101.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากระดับปิดที่เพิ่มขึ้น 36 เซนต์ ที่ระดับ 101.22 ดอลลาร์ที่ตลาดน้ำมันนิวยอร์กเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
          ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ทะเลเหนือส่งมอบเดือนพ.ค.ไต่ระดับขึ้น 46 เซนต์แตะที่ 101.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากระดับปิดที่ 100.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          ตลาดยังมีความวิตกกังวลต่ออุปสงค์ด้านพลังงานในสหรัฐ แม้ว่าราคาน้ำมันจะดีดตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้
          "ราคาน้ำมันร่วงลงอย่างหนักในช่วงกว่า 10 วันที่ผ่านมา ซึ่งภาวะเช่นนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์ที่ตลาดขาดปัจจัยหนุนจนทำให้การบรรยากาศการซื้อขายซบเซา" นักวิเคราะห์จากโซซิเอเต เจเนอราลกล่าวในรายงาน
          ทั้งนี้ ข้อมูลด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความต้องการใช้น้ำมันในประเทศที่มีปริมาณการใช้น้ำมันมากที่สุดในโลกที่มีกำหนดจะรายงานออกมาในคืนนี้อาจสร้างความประหลาดใจให้ตลาด
          "รายงานสต็อกน้ำมันสำรองมักสร้างความประหลาดใจต่อตลาดอยู่เสมอ ซึ่งนักลงทุนกำลังจับตารายงานดังกล่าว" โทนี่ นูนาน เจ้าหน้าที่จากภาคธุรกิจปิโตรเลียมของบริษัท มิตซูบิชิ คอร์ป ในโตเกียวกล่าว  
          ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จากโซซิเอเต เจเนอราล คาดการณ์ว่า สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐจะรายงานตัวเลขน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐที่ปรับตัวขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
          ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดนิวยอร์กพุ่งทำสถิติสูงสุดที่ 111.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 108.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อต้นเดือนนี้ เนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร 
          ทั้งนี้ จากสถานการณ์เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าได้ช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ที่ซื้อขายผ่านเงินดอลลาร์สหรัฐมากขึ้น เนื่องจากภาวะดังกล่าวจะส่งผลดีต่อนักลงทุนที่ใช้เงินสกุลที่แข็งค่ามากกว่าเงินดอลลาร์สหรัฐ