ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX:ราคาน้ำมันดิบปิดพุ่ง 4.68$ หลังสต็อคน้ำมันร่วง

ข่าวต่างประเทศ Thursday March 27, 2008 06:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงกว่า 4 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อคน้ำมันกลั่นและน้ำมันเบนซินร่วงลงเกินคาด นอกจากนี้ การที่สกุลเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงยิ่งทำให้เทรดเดอร์ทุ่มซื้อสัญญาน้ำมันอย่างคึกคัก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดพุ่งขึ้น 4.68 ดอลลาร์ แตะระดับ 105.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดเพิ่มขึ้น 11.9 เซนต์ แตะระดับ 3.0438 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดเพิ่มขึ้น 6.27 เซนต์ แตะระดับ 2.7429 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดพุ่งขึ้น 3.39 ดอลลาร์ แตะระดับ 103.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อคน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 21 มี.ค.ทรงตัวอยู่ที่ 311.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดการณ์ว่าจะพุ่งขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อคน้ำมันเบนซินร่วงลง 3.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 229.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล และสต็อคน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล ลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 111.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดกว่าจะขยับลงเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ อัตราการกลั่นน้ำมันในรอบสัปดาห์ดังกล่าวอยู่ที่ 82.2% จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ 83.3%
ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากเอลารอน เทรดดิ้ง ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า "สต็อคน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นที่ร่วงลงเกินคาด ทำให้นักลงทุนกังวลว่าสหรัฐอาจเผชิญภาวะพลังงานขาดแคลนในฤดูขับขี่ยานยนต์ในหน้าร้อน อีกทั้งยังกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทวาเลโร เอนเนอร์จี ที่ทำให้ทางบริษัทต้องปิดโรงงานที่เมืองคอร์ปัสคริสตี ในรัฐเท็กซัส"
"นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงเนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ อาทิ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดขายบ้านใหม่ ทำให้นักลงทุนแห่เข้าลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์นิวยอร์ก เพราะสามารถซื้อสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ได้ถูกลง เนื่องจากสัญญาเหล่านี้ซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์" ไฟนน์กล่าว
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ.ร่วงลง 1.7% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8% ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ.ร่วงลง 1.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 590,000 ยูนิต จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 601,000 ยูนิต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ