ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: เฮดจ์ฟันเทขายทำกำไร ฉุดราคาน้ำมันปิดร่วง 4.04$

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 4 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) เนื่องจากเทรดเดอร์และเฮดจ์ฟันด์เข้ามาเทขายสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์แทบจะทุกประเภท นับตั้งแต่โลหะมีค่าจนถึงน้ำมันดิบและพืชผลทางการเกษตร
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 4.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 101.58 ดอลลาร์/บาร์เรล 
          ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดลดลง 5.58 เซนต์ แตะระดับ 3.0492 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดรูดลง 10.07 เซนต์ แตะระดับ 2.6163 ดอลลาร์/แกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดร่วงลง 3.47 ดอลลาร์ แตะที่ระดับ 100.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
          นายฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากเอลารอน เทรดดิ้ง คอร์ป ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า "เทรดเดอร์และเฮดจ์ฟันด์เข้ามาเทขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะตลาดน้ำมันและทองคำ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบดิ่งลงกว่า 4 ดอลลาร์ และราคาทองทรุดตัวลงกว่า 14 ดอลลาร์" 
          "เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน นักเก็งกำไรและเฮดจ์ฟันด์เข้ามาทุ่มซื้อสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างล้นหลาม เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงทำให้สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์มีราคาถูกลง โดยเมื่อไม่นานมานี้สกุลเงินดอลลาร์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับยูโร" นายไฟนน์กล่าว
          "แต่เนื่องจากวันจันทร์ที่ 31 มี.ค.เป็นวันสุดท้ายของไตรมาสแรก สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์หลายประเภทครบกำหนดส่งมอบ เทรดเดอร์และเฮดจ์จึงกระหน่ำขายเพื่อทำกำไรหลังจากที่ช้อนซื้อเอาไว้จำนวนมาก" เขากล่าว
          ด้านนายจิม ริทเทอร์บุช ประธานบริษัทริทเทอร์บุช แอนด์ แอสโซซิเอทส์ ในรัฐอิลลินอยส์กล่าวว่า อีกปัจจัยยหนึ่งที่ฉุดราคาน้ำมันดิบร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลต่อเหตุการณ์ลอบวางระเบิดท่อส่งน้ำมันหลักในอิรัก ซึ่งก่อนหน้านี้ดาวโจนส์ นิวส์ไวร์รายงานว่า กลุ่มคนร้ายติดอาวุธได้ก่อเหตุลอบวางระเบิดท่อส่งน้ำมันในเขตซูแบร์ ทางตะวันตกของเมืองบาสรา ประเทศอิรัก ซึ่งการก่อวินาศกรรมในครั้งนี้ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกน้ำมันจากภาคใต้ของอิรักลดลงอย่างรุนแรงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2547
          "นักวิเคราะห์มีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับแนวโน้มราคาน้ำมัน โดยนักวิเคราะห์บางกลุ่มคาดว่าราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนตัวลงอีกและเนื่องจากกลุ่มเฮดจ์ฟันด์ยังพร้อมที่จะเข้ามาเก็งกำไร แต่ก็มีนักวิเคราะห์บางคนมองว่าราคาน้ำมันอาจจะปรับตัวลดลง" ริทเทอร์บุชกล่าว