ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ราคาน้ำมันดิบปิดพุ่ง 3.85 ดอลล์ หลังสหรัฐเผยสต็อคน้ำมันเบนซินร่วง

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 3, 2008 06:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 3.85 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อคน้ำมันเบนซินร่วงลงติดต่อกัน 3 สัปดาห์เนื่องจากความต้องการน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 104.83 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 3.85 ดอลลาร์ หรือ 3.8%
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 13.44 เซนต์ หรือ 5.1% แตะระดับ 2.7736 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดพุ่งขึ้น 7.13 เซนต์ หรือ 2.5% แตะระดับ 2.9510 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดพุ่งขึ้น 3.58 ดอลลาร์ แตะระดับ 103.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทิม อีแวนส์ นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปกล่าวว่า "นักลงทุนในตลาดน้ำมันนิวยอร์กมีปฏิกริยาต่อข้อมูลสต็อคน้ำมันเบนซินที่ร่วงลงและความต้องการน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนและนักเก็งกำไรเข้าซื้อสัญญาน้ำมันทุกประเภท โดยไม่ให้ความสนใจต่อตัวเลขสต็อคน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุด"
กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อคน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 28 มี.ค.พุ่งขึ้น 7.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 319.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนต.ค.2550
ขณะที่สต็อคน้ำมันเบนซินลดลง 4.5 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 224.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง และสต็อคน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงน้ำมันดีเซลและน้ำมันฮีทติ้งออยล์ ลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 109.7 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานระบุว่า อัตราการกลั่นน้ำมันอยู่ที่ระดับ 82.4% เพิ่มขึ้นจากระดับ 82.2% ส่วนความต้องการน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ยอยู่พุ่งขึ้น 214,000 บาร์เรล/วัน แตะระดับ 9.33 ล้านบาร์เรล
ด้านนายไมค์ ฟิทซ์แพทริค นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟ โกลบอล กล่าวว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบร่วงลงต่ำกว่าระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยแตะที่ระดับต่ำสุดที่ 99.84 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ น้ำมันดิบ ที่ซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ไม่น่าดึงดูดใจ
"เฮดจ์ฟันด์เป็นกลุ่มนักลงทุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ในขณะนี้ โดยเข้ามาทั้งซื้อและขายทำกำไร จึงทำให้ยากที่จะคาดการณ์ทิศทางตลาด" นายฟิทซ์แพทริคกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ