ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 13.60 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) หลังจากราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นเหนือระดับ 109 ดอลลาร์/บาร์เรลได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาโลหะมีค่าอย่างหนาแน่น
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 926.80 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 13.60 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 914.40-933.70 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 18.120 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 36.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 2.5 เซนต์ แตะระดับ 3.9795 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 2,046.90 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 16.40 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 457.15 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 12.75 ดอลลาร์
นายคาร์ลอส ซานเชส นักวิเคราะห์ซีพีเอ็ม กรุ๊ป ในกรุงนิวยอร์กกล่าวว่า ราคาทองคำทะยานขึ้นแข็งแกร่งหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้น 2.86 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.
"เมื่อราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้น นักลงทุนก็เข้าทุ่มซื้อสัญญาโลหะมีค่าอย่างหนาแน่นโดยไม่สนใจว่าสกุลเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับเยนและยูโร ผมคาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มพุ่งขึ้นทดสอบระดับ 1,000 ดอลลาร์/ออนซ์อีกครั้ง ส่วนปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นมาจากการที่เลขาธิการโอเปคยืนยันว่าจะไม่เพิ่มผลผลิต " นายซานเชสกล่าว
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นหลังจากนายอับดุลเลาะห์ ซาเล็ม เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปค ปฏิเสธข้อเรียกร้องจากชาติตะวันตกที่ต้องการให้โอเปคเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน โดยระบุว่าปริมาณน้ำมันในตลาดโลกมีมากพอ และปัญหาน้ำมันแพงเกิดจากปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ อาทิ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--