สัญญาน้ำมัน NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันนี้ (8 เม.ย.) หลังกลุ่มโอเปคระบุว่าปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกมีอยู่มากพอและหลังจากนักลงทุนทุ่มจนราคาน้ำมันทะยานเกือบแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพ.ค. และได้มีการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ลดลง 23 เซนต์ แตะระดับ 108.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยเมื่อวานนี้สัญญาดังกล่าวปิดที่ 109.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังทะยานแตะระดับสูงสุดระหว่างวันที่ 109.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 16 เซนต์ แตะระดับ 106.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากปิดที่ระดับ 107.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวานนี้ที่ตลาดลอนดอน
ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันดิบตลาดลอนดอนทะยานแตะระดับสูงสุดที่ 111.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า รวมถึงตลาดการเงินโลกที่อยู่ในภาวะผันผวน
เดวิด จอห์นสัน นักวิเคราะห์น้ำมันจาก Macquarie Research ในฮ่องกง กล่าวว่า แรงซื้อจากนักลงทุนหนุนให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายอับดุลเลาะห์ ซาเล็ม เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปค ปฏิเสธข้อเรียกร้องจากชาติตะวันตกที่ต้องการให้โอเปคเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน โดยระบุว่าปริมาณน้ำมันในตลาดโลกมีมากพอ และปัญหาน้ำมันแพงเกิดจากปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ
"ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกขณะนี้อยู่ในระดับเพียงพอแล้ว จึงไม่เห็นความจำเป็นที่โอเปคจะต้องเพิ่มปริมาณการผลิต การที่น้ำมันมีราคาแพงเป็นประวัติการณ์เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ ปัญหากระบวนการกลั่นน้ำมัน และการอ่อนตัวค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ" เลขาธิการโอเปคกล่าว
ทั้งนี้ โอเปคซึ่งผลิตน้ำมันได้ในสัดส่วน 40% ของผลผลิตน้ำมันทั่วโลก ยังคงตรึงเพดานการผลิตไว้เท่าเดิมที่ 29.67 ล้านบาร์เรล/วัน ในการประชุมเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--