ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 59 เซนต์เมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงเมื่อวันก่อน นอกจากนี้ การที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินปอนด์ ทำให้ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดลดลง 59 เซนต์ แตะระดับ 108.50 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 109.25-107.80 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 2.59 เซนต์ แตะระดับ 3.1102 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดลดลง 3.31 เซนต์ แตะระดับ 2.7504 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดลดลง 80 เซนต์ แตะระดับ 106.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายไมเคิล ลินช์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากบริษัทสตราเทจิก เอนเนอร์จี แอนด์ อิโคโนมิค รีเสิร์ช กล่าวว่า "การที่ดอลลาร์สหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพทำให้นักลงทุนเทขายทำกำไร ที่ผ่านมานั้นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าการที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล"
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงไม่มากนักเนื่องจากกลุ่มเฮดจ์ฟันด์เข้ามาช้อนซื้อสัญญาน้ำมันดิบหลังจากรัฐบาลอิหร่านประกาศว่า อิหร่านได้เริ่มติดตั้งและทดสอบอุปกรณ์ที่โรงงานเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่าอาจเกิดความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันจากตะวันออกกลางด้วย
นักลงทุนจับตาดูสต็อคน้ำมันประจำสัปดาห์ ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน หรือ อีไอเอ ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ความต้องการน้ำมันในตลาดโลกในช่วงไตรมาส 2 ลง 180,000 บาร์เรล/วัน เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อน พร้อมระบุว่า ราคาน้ำมันเบนซินที่สูงเป็นประวัติการณ์และภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในสหรัฐ อาจทำให้ความต้องการน้ำมันเบนซินช่วงฤดูร้อนปีนี้ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวสูงขึ้นอีกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากเฟดมีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ซึ่งการลดอัตราดอกเบี้ยจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและจะทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาถูกลง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--