ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ราคาน้ำมันดิบปิดพุ่ง 2.37 ดอลล์หลังสต็อคน้ำมันร่วงเกินคาด

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 10, 2008 06:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 2.37 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) โดยในระหว่างวันราคาทะยานขึ้นไปยืนอยู่เหนือระดับ 112 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต๊อคน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินประจำสัปดาห์ร่วงลงเกินคาด
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 2.37 ดอลลาร์ หรือ 2.18% ปิดที่ 110.87 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 107.95-112.21 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 12.43 เซนต์ ปิดที่ 3.2345 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้น 2.38 เซนต์ ปิดที่ 2.7742 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 2.13 ดอลลาร์ แตะระดับ 108.47 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก เคลื่อนตัวในช่วง 105.75-109.50 ดอลลาร์
นายฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเอลารอน เทรดดิ้ง ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า "ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นทันทีที่กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยสต็อคน้ำมันที่ร่วงลงเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าปริมาณน้ำมันในสหรัฐอาจมีไม่เพียงพอต่อความต้องการในฤดูขับขี่ยานยนต์ในหน้าร้อน"
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อคน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 4 เม.ย. ลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 316 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อคน้ำมันเบนซินลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 221.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกัน 4 สัปดาห์ และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 2.2 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อคน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล ลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 106 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกัน 9 สัปดาห์ และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล
กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (AAA) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ราคาน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ยทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 1.2 เซนต์ และคาดว่าจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในฤดูขับขี่ยานยนต์ในหน้าร้อนของสหรัฐ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ความต้องการพลังงานพุ่งขึ้นสูงสุด
อย่างไรก็ตาม นายไฟนน์กล่าวว่าราคาน้ำมันเบนซินมีแนวโน้มลดลงเนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลงอาจทำให้ความต้องการน้ำมันเบนซินลดลงด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ