ราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์ลดแตะ$110.66 หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบลดเกินคาด

          สัญญาน้ำมัน NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลงในวันนี้ (10 เม.ย.) หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยข้อมูลสต็อคน้ำมันประจำสัปดาห์ที่ร่วงลงเกินคาด และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพ.ค. และได้มีการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ปรับตัวลดลง 21 เซนต์ แตะระดับ 110.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยเมื่อวานนี้สัญญาดังกล่าวขยับขึ้น 2.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 110.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล พุ่งขึ้นผ่านระดับ 112 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรก หลังทะยานแตะระดับสูงสุดระหว่างวันที่ 112.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นหลังจากที่กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อคน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 4 เม.ย. ลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 316 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อคน้ำมันเบนซินลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 221.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
          "ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเนื่องจากได้รับปัจจัยลบจากการรายงานสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ของสหรัฐที่ลดลงอย่างหนัก" โทนี่ นูนาน เจ้าหน้าที่จากภาคธุรกิจปิโตรเลียมของบริษัท มิตซูบิชิ คอร์ป ในโตเกียวกล่าว
          นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันเบนซิน ก่อนที่จะถึงช่วงวันหยุดของสหรัฐที่จะมีขึ้นในเดือนหน้าซึ่งจะเป็นช่วงที่ความต้องการน้ำมันพุ่งขึ้นสูงสุด
          กระทรวงพลังงานของสหรัฐคาดการณ์ว่า อัตราการใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐในช่วงเทศกาลที่กำลังจะมาถึงนี้จะลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี เนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
          นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ โดยค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอมเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจโลก เนื่องจากวิตกกังวลว่า ภาวะวิกฤตสินเชื่อจะทวีความรุนแรงขึ้นอีก