ภาวะตลาดทองคำ NYMEX: ดอลลาร์แข็ง,น้ำมันร่วง กดราคาทองปิดลบ 5.70 ดอลล์

          ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 5.70 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (10 เม.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินปอนด์หลังจากธนาคารกลางอังกฤษประกาศลดอัตราดอกเบี้ย และแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรหลังจากธนาคารกลางยุโรปประกาศตรึงดอกเบี้ย นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิ่งลงกว่า 70 เซนต์ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ฉุดราคาทองร่วงลงเช่นกัน
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 931.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 5.70 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 925.00-943.40 ดอลลาร์
          ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 18.043 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 15.70 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 7.6 เซนต์ ปิดที่ 3.924 ดอลลาร์/ปอนด์
          ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 2,045.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 468.75 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.55 ดอลลาร์
          นายคาร์ลอส ซานเชส นักวิเคราะห์จากซีเอ็มพี กรุ๊ป ในกรุงนิวยอร์ก กล่าวว่า "ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นเกินความคาดหมายและราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำ"
          "นักลงทุนยังคงวิตกกังวลต่อข่าวที่ว่าคณะกรรมการบริหารของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) อนุมัติแผนฟื้นฟูระบบการเงินภายในองค์กร ซึ่งรวมถึงนำทองคำสำรองของไอเอ็มเอฟจำนวน 403.3 ตันออกขาย" นายซานเชสกล่าว
          อย่างไรก็ตาม บริษัท GFMS ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านโลหะระบุว่า ราคาทองมีแนวโน้มพุ่งแตะระดับ 1,000 ดอลลาร์อีกครั้งในปีนี้ โดยผลการสำรวจตลาดทองปี 2551 พบว่าปัจจัยต่างๆที่หนุนราคาขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั้นจะยังคงมีอยู่ และนักลงทุนก็ยังคงมองว่าทองคำเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีมาก