ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 2.03 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) เนื่องจากความกังวลที่ว่าปริมาณพลังงานในสหรัฐอาจมีไม่เพียงพอต่อความต้องการในฤดูขับขี่ยานยนต์ในหน้าร้อนของสหรัฐ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังพุ่งขึ้นจากข่าวที่ว่าเม็กซิโกจำกัดการส่งออกน้ำมัน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 2.03 ดอลลาร์ หรือ 1.82 % ปิดที่ 113.79 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 111.80- 113.99 ดอลลาร์ โดยหลังจากตลาดปิดทำการ ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ที่ 114.08 ดอลลาร์ ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 7.10 เซนต์ ปิดที่ 3.2739 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาหลังน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 5.92 เซนต์ ปิดที่ 2.8810 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ค.ทะยานขึ้น 1.47 ดอลลาร์ แตะระดับปิดสูงสุดที่ 111.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเอลารอน เทรดดิ้งกล่าวว่า ตลาดถูกกดดันจากความกังวลที่ว่าอาจเกิดภาวะพลังงานขาดแคลนในสหรัฐ หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อคน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 4 เม.ย. ลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 316 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อคน้ำมันเบนซินลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 221.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกัน 4 สัปดาห์ และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 2.2 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อคน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล ลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 106 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกัน 9 สัปดาห์ และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบหลังจากนายอับดุลเลาะห์ ซาเล็ม เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปค ยืนยันว่าโอเปคผลิตน้ำมันในอัตราที่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดโลกแล้ว พร้อมกับปฏิเสธข้อเรียกร้องจากชาติตะวันตกที่ต้องการให้โอเปคเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน โดยระบุว่าปัญหาน้ำมันแพงเกิดจากปัจจัยอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการอ่อนตัวลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ นายบาดรีระบุว่า โอเปคไม่มีแผนการที่จะจัดการประชุมฉุกเฉิน ก่อนการประชุมตามกำหนดครั้งต่อไปในเดือนก.ย. โดยโอเปคได้ประชุมครั้งล่าสุดเมื่อต้นเดือนมี.ค.
โอเปคประกาศคงคาดการณ์อัตราการขยายตัวของความต้องการน้ำมันทั่วโลกไว้เท่าเดิมที่ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับเฉลี่ยที่ 87 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการคาดการณ์ครั้งก่อน
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อคน้ำมันครั้งต่อไปของสหรัฐซึ่งจะมีขึ้นในคืนวันพุธ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อคน้ำมันดิบอาจเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล สต็อคน้ำมันเบนซินอาจลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล และสต็อคน้ำมันกลั่นอาจลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--