กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อคน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 11 เม.ย. ร่วงลง 2.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 313.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อคน้ำมันเบนซินร่วงลง 5.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 215.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 11 ม.ค. และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อคน้ำมันกลั่นซึ่งรวมน้ำมันฮีทติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล สู่ระดับ 106.1 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล
อัตราการกลั่นน้ำมันลดลง 1.6% สู่ระดับ 81.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2547
สต็อคน้ำมันข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ ประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปี 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--