ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ราคาน้ำมันดิบพุ่งปิดที่ $114.93 หลังสหรัฐเผยสต็อคน้ำมันร่วงหนัก

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 17, 2008 07:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 1.14 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (16 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าสหรัฐอาจเผชิญภาวะพลังงานขาดแคลน หลังจากกระทรวงพลังงานรายงานว่าน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินสำรองในรอบสัปดาห์ที่แล้วร่วงลงเกินความคาดหมาย นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ที่ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคับคั่ง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 114.93 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 112.20- 115.07 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 0.91 เซนต์ ปิดที่ 3.2830 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 5.80 เซนต์ ปิดที่ 2.9390 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 1.08 ดอลลาร์ แตะระดับปิดสูงสุดที่ 112.66 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัว ในช่วง 110.15-112.79 ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นทันที หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อคน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 11 เม.ย. ร่วงลง 2.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 313.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อคน้ำมันเบนซินร่วงลง 5.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 215.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 11 ม.ค. และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อคน้ำมันกลั่นซึ่งรวมน้ำมันฮีทติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล สู่ระดับ 106.1 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล
อัตราการกลั่นน้ำมันลดลง 1.6% สู่ระดับ 81.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2547
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันทะยานขึ้นหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก เพราะได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 0.3% ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้นตามคาด 0.2%
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในเดือนมี.ค.ร่วงลง 11.9% แตะระดับ 947,000 ยูนิต และอัตราการอนุญาตก่อสร้างร่วงลง 5.8% แตะระดับ 927,000 ยูนิต ก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะอยู่ที่ 1.02 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. ลดลงจาก 1.065 ล้านยูนิตในเดือนก.พ. และอัตราการอนุญาตก่อสร้างจะอยู่ที่ 970,000 ยูนิตในเดือนมี.ค. ลดลงจาก 984,000 ยูนิตในเดือนก.พ.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ