ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: แรงขายทำกำไร กดราคาน้ำมันปิดลบ 7 เซนต์

ข่าวต่างประเทศ Friday April 18, 2008 06:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (17 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 115.54 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิก ซึ่งเป็นผลมาจากค่าเงินดอลลาร์ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับยูโร 
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดลดลง 7 เซนต์ แตะระดับ 114.86 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 115.54 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิก
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 1.56 เซนต์ ปิดที่ 3.2674 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ค.ดีดขึ้น 1.88 เซนต์ ปิดที่ 2.9578 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 23 เซนต์ ปิดที่ 112.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อคน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 11 เม.ย. ร่วงลง 2.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 313.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อคน้ำมันเบนซินร่วงลง 5.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 215.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 11 ม.ค. และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อคน้ำมันกลั่นซึ่งรวมน้ำมันฮีทติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล สู่ระดับ 106.1 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล
แต่เมื่อราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 115.54 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนเริ่มเทขายทำกำไร ซึ่งฉุดราคาร่วงลงในเวลาต่อมา
นายเจมส์ คอร์ดิเยร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทแทมปาในรัฐฟลอริด้ากล่าวว่า "สต็อคน้ำมันที่ลดลงเกินคาดของสหรัฐทำให้เกิดความกังวลว่า ฤดูการขับขี่ยานยนต์ในหน้าร้อนปีนี้ สหรัฐอาจเผชิญภาวะขาดแคลนพลังงาน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นแตะระดับ 125 ดอลลาร์/บาร์เรล"
นักลงทุนจับตาดูรายงานจากสำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ที่ระบุว่า ผลผลิตน้ำมันของรัสเซียลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี และจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 29-30 เม.ย.นี้ ซึ่งหากเฟดลดอัตราดอกเบี้ยลงตามกระแสคาดการณ์ ก็จะทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง และดึงดูดนักลงทุนให้เข้าซื้อในตลาดทองคำและน้ำมันมากขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ