ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX:ข่าวโจมตีท่อส่งน้ำมันไนจีเรียดันราคาน้ำมันพุ่งปิด 116.69$

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดระดับใหม่เมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) หลังจากที่กลุ่มกองกำลังในไนจีเรียเปิดเผยว่า ทางกองกำลังได้ลงมือก่อวินาศกรรมท่อขนส่งน้ำมันของบริษัทโรยัล ดัชต์ เชลล์ พร้อมยืนกรานที่จะเดินหน้าโจมตีกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเลียมในประเทศไนจีเรียเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ไนจีเรียเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐ     
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 1.83 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 116.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งนับเป็นวันที่ 5 แล้วที่ราคาน้ำมันปรับตัวทำสถิติสูงสุดระดับใหม่อย่างต่อเนื่อง
          ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 2.49 เซนต์ ปิดที่ 3.2923 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 3.15 เซนต์ ปิดที่ 2.9893 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
          กองกำลังไนจีเรียมีเป้าหมายโจมตีท่อขนส่งน้ำมันตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยท่อน้ำมันดังกล่าวเชื่อมโยงติดกับสถานีจ่ายน้ำมันบอนนี่ ซึ่งเป็นสถานีใหญ่ที่สุดในไนจีเรียที่สามารถจัดเก็บน้ำมันดิบได้ประมาณ 7 ล้านบาร์เรล
          ขณะที่ โฆษกของเชลล์ออกมายืนยันว่า ความเสียหายของท่อส่งน้ำมันที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มาจากแรงระเบิด  
          ทั้งนี้ เชลล์ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในไนจีเรีย โดยมีผลผลิตน้ำมันได้ราวครึ่งหนึ่งของน้ำมันที่ผลิตในประเทศทั้งหมดที่ 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน กำลังเผชิญความเสี่ยงที่จะทำให้ตลาดโลกเผชิญกับภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัวอีกระลอก 
          นอกจากนี้ ผลสำรวจของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (AAA) ของสหรัฐระบุว่า ราคาค้าปลีกน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ยทั่วประเทศ พุ่งขึ้น 2.7 เซนต์ สู่ระดับสูงสดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.445 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ขณะที่ราคาค้าปลีกเชื้อเพลิงดีเซลโดยเฉลี่ยทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 2.2 เซนต์ แตะที่ 4.168 ดอลลาร์ต่อแกลลอน