สัญญาน้ำมัน NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ (22 เม.ย.) หลังจากที่เกิดเหตุโจมตีท่อส่งน้ำมันในไนจีเรีย ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และหลังจากกลุ่มโอเปคเตือนว่า ราคาน้ำมันจะยังคงแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไป
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพ.ค. และได้มีการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8 เซนต์ แตะ 117.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่ได้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่ระหว่างวันที่ 117.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนจะปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 117.48 ดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์กล่าวว่า เหตุโจมตีท่อส่งน้ำมันในไนจีเรีย เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น ซึ่งราคาน้ำมันได้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกือบทุกวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
บริษัทโรยัล ดัชต์ เชลล์ ได้ประกาศ "ภาวะสุดวิสัย (force majeure)" เนื่องจากบริษัทไม่สามารถส่งมอบน้ำมัน 400,000 บาร์เรลต่อวันให้กับลูกค้าได้ตามกำหนด โดยการประกาศภาวะสุดวิสัยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันอังคารที่ 22 เม.ย.เป็นต้นไป หลังจากที่กลุ่มกบฎไนจีเรียได้ก่อเหตุโจมตีท่อส่งน้ำมันของบริษัท 2 แห่งบริเวณสามเหลี่ยมแม่น้ำไนเจอร์
แม้ว่าราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่นายชากิบ เคลิล ประธานโอเปคกล่าวว่า ยังไม่ความจำเป็นที่จะปรับเพิ่มผลผลิตน้ำมันดิบในขณะนี้
ด้านนายราฟาเอล รามิเรซ รัฐมนตรีน้ำมันและพลังงานของเวเนซูเอล่า กล่าวว่า ราคาน้ำมันอาจจะไม่ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่นาย ฮุสเซน อัส ชาห์ริสทานี รัฐมนตรีน้ำมันของอิรักกล่าอ้างว่า แม้ว่าโอเปคจะปรับเพิ่มผลผลิตน้ำมัน แต่ก็อาจจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการตามที่ตลาดได้เรียกร้องได้ เนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเป็นผลมาจากการซื้อเก็งกำไร
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--