ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ข่าวคนงานบีพี,เอ็กซอนโมบิลประท้วง หนุนน้ำมันพุ่งปิดที่ $118.75

ข่าวต่างประเทศ Tuesday April 29, 2008 06:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) โดยราคาเคลื่อนไหวเข้าใกล้ระดับ 120 ดอลลาร์เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานหลังจากมีข่าวการประท้วงของคนงานบริษัทน้ำมันในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงคนงานบริษัทบีพีในอังกฤษและบริษัทเอ็กซอนโมบิลในไนจีเรีย 
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดขยับขึ้น 23 เซนต์ แตะระดับ 118.75 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 119.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดลดลง 2.3 เซนต์ แตะระดับ 3.0307 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดรูดลง 0.4 เซนต์ แตะระดับ 3.2988 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดเพิ่มขึ้น 40 เซนต์ แตะระดับ 116.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
บริษัทบีพีซึ่งเป็นน้ำมันยักษ์ใหญ่สัญชาติอังกฤษประกาศปิดระบบท่อส่งน้ำมันฟอร์ตี้ที่ลำเลียงน้ำมันส่วนใหญ่จากทะเลเหนือ หลังจากคนงานผละงานประท้วงเนื่องจากไม่พอใจเรื่องการจ่ายเงินบำนาญ โดยท่อส่งน้ำมันฟอร์ตี้สามารถลำเลียงน้ำมันได้มากถึง 700,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของกำลังการผลิตน้ำมันในอังกฤษทั้งหมดที่ 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน
กลุ่มคนงานประมาณ 1,200 คนที่โรงกลั่นน้ำมันในเมืองเกรนเมาท์ทางตอนกลางของสก็อตแลนด์ประกาศว่า พวกเขาเปิดฉากการประท้วงเพราะไม่พอใจเรื่องการจ่ายเงินบำนาญ ซึ่งข่าวการประท้วงได้ส่งผลให้ประชาชนบางส่วนในเขตชนบทของสกอตแลนด์เกิดความตื่นตระหนกและแห่ซื้อน้ำมันกักตุนกันเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอังกฤษออกมากล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนเชื้อเพลิงโดยรวม แต่ยอมรับว่าอาจสร้างปัญหาต่อปริมาณการผลิตน้ำมันภายในประเทศ
นอกจากนี้ มีรายงานว่าคนงานบริษัทเอ็กซอนโมบิลในไนจีเรียก่อหวอดประท้วงขอขึ้นค่าแรง ซึ่งเป็นเหตุให้ปริมาณการผลิตน้ำมันลดน้อยลง ส่งผลให้เอ็กซอนโมบิลออกแถลงการณ์ว่า บริษัทอาจไม่สามารถผลิตน้ำมันได้ตามความต้องการของลูกค้า แม้ไลน์การผลิตบางส่วนไม่ได้รับผลกระทบก็ตาม
นักลงทุนในตลาดน้ำมันนิวยอร์กจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 29-30 เม.ย. โดยมีกระแสคาดการณ์ในวงกว้างว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกอย่างน้อย 0.25% ซึ่งการลดดอกเบี้ยจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
อย่างไรก็ตาม มีกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะหยุดวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายหลังการประชุมครั้งนี้และจะตรึงดอกเบี้ยไว้จนถึงปลายปีนี้ ซึ่งหากเป็นไปตามคาดการณ์ก็จะทำให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและกดราคาน้ำมันร่วงลง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ