ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ส่วนปัจจัยอื่นๆที่ฉุดราคาน้ำมันร่วงลงคือข่าวที่ว่าโรงกลั่นน้ำมันในเมืองเกรนเมาท์ทางตอนกลางของสก็อตแลนด์เริ่มทำการผลิตน้ำมันตามปกติแล้ว หลังคนงานยุติการประท้วง และข้อมูลที่ว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐลดน้อยลง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดร่วงลง 3.12 ดอลลาร์ แตะระดับ 115.63 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 116.20 117.30 ดอลลาร์ในระหว่างวัน
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดลดลง 9.15 เซนต์ แตะระดับ 2.9392 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดรูดลง 5.23 เซนต์ แตะระดับ 3.2465 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดร่วงลง 3.31 ดอลลาร์ แตะระดับ 113.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบหลังจากมีข่าวว่า โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทอินิออส กรุ๊ป ในเมืองเกรนเมาท์ทางตอนกลางของสก็อตแลนด์เริ่มดำเนินการผลิตน้ำมันตามปกติตั้งแต่เมื่อวานนี้ หลังคนงานยุติการประท้วง
ก่อนหน้านี้ เหตุการณ์ประท้วงดังกล่าวทำให้ให้บริษัทบีพีต้องปิดท่อส่งน้ำมันฟอร์ตีส์ซึ่งสามารถลำเลียงน้ำมันได้กว่า 40% ของผลผลิตน้ำมันทั้งหมดในอังกฤษ จนส่งผลกระทบต่อการลำเลียงน้ำมันกว่า 700,000 บาร์เรล/วัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านปอนด์ (99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)/วัน
อย่างไรก็ตาม อาจต้องใช้เวลาราว 3 สัปดาห์กว่าโรงกลั่นน้ำมันจะผลิตน้ำมันได้เต็มกำลังการผลิต 200,000 บาร์เรล/วัน ระหว่างนั้นสหราชอาณาจักรจึงต้องนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่นในยุโรป
ทั้งนี้ โรงกลั่นน้ำมันในเมืองเกรนเมาท์สามารถผลิตน้ำมันกว่า 95% ของทั้งหมดที่ใช้ในภาคกลางของสก็อตแลนด์ ซึ่งรวมถึงเมืองหลวง เอดินเบิร์ก และเมืองที่ใหญ่ที่สุดอย่างกลาสโกลว
นักลงทุนยังให้น้ำหนักกับข่าวที่ว่า กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยในรายงานประจำเดือนว่า ความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมร่วงลง 8.5% ในเดือนก.พ. และความต้องการน้ำมันเบนซินลดลง 6.2% ขณะที่บริษัทมาสเตอร์การ์ด แอดไวเซอร์สรายงานว่า ความต้องการน้ำมันเบนซินค้าปลีกในสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้วลดลง 1.6% เมื่อเทียบกับสัปดาห์เดียวกันในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ การที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นับเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่นักลงทุนตัดสินใจเทขายสัญญาน้ำมันดิบและน้ำมันประเภทอื่นๆ ทั้งนี้ นักลงทุนยังจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในคืนวันที่ 30 เม.ย.
กระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อคน้ำมันรายสัปดาห์ในคืนวันพุธ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อคน้ำมันดิบอาจเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล สต็อคน้ำมันกลั่นอาจลดลง 100,000 บาร์เรล และสต็อคน้ำมันเบนซินอาจลดลง 700,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.3%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--