ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) ราคาข้าวโพดทะยานเกือบแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อันเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งเหนือระดับ 122 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รวมถึงกระแสคาดการณ์ที่ว่าจะมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ปลูกข้าวโพดของสหรัฐ ส่งผลให้เกษตรกรไม่สามารถปลูกข้าวโพดได้ทันตามกำหนด
"ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้พลังงานทางเลือกอย่างเอธานอลเป็นที่ต้องการ ดังนั้นผู้ปลูกข้าวโพดซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเชื้อเพลิงเอธานอลจึงทำกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ" รอย ฮัคคาเบย์ นักวิเคราะห์และรองประธานบริหารบริษัท ลินน์ กรุ๊ป ในชิคาโก้ กล่าว
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค.ทะยาน 12.25 เซนต์ ปิดที่ 6.0625 ดอลลาร์ต่อบุชเชล หลังจากที่ทะยานแตะ 6.22 ดอลลาร์ต่อบุชเชล เกือบแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
อีกปัจจัยที่หนุนให้ราคาข้าวโพดปรับตัวสูงขึ้นคือ กระแสคาดการณ์ที่ว่าจะมีฝนตกเล็กน้อยในพื้นที่ปลูกข้าวโพดของสหรัฐ ได้แก่รัฐไอโอว่า เซาท์ดาโกต้า และ มินเนโซต้า หลังจากที่มีฝนตกหนักตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้จนถึงตอนนี้เกษตรกรปลูกข้าวโพดได้เพียง 27% ของทั้งหมดที่ตั้งเป้าไว้
สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค.ทะยาน 12.5 เซนต์ ปิดที่ 8.18 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ในขณะที่สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค.ปรับตัวลดลง 9 เซนต์ ปิดที่ 12.77 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
ด้านสัญญาข้าวปรับตัวสูงขึ้น หลังพายุไซโคลนนาร์กิสถล่มพื้นที่ปลูกข้าวในประเทศพม่า โดยก่อนหน้านี้พม่าปลูกข้าวได้ 11 ล้านตันต่อปีและคาดว่าจะส่งออกข้าวกว่า 400,000 ตันในปีนี้ หรือคิดเป็น 1.7% ของข้าวทั้งหมดที่มีการซื้อขายในตลาดโลก
ความวิตกกังวลที่ว่าพม่าอาจไม่สามารถส่งออกข้าวได้ตามเป้าส่งผลให้สัญญาข้าวในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 21.10 ดอลลาร์/100 ปอนด์ สำนักข่าวเอพีรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--