สัญญาน้ำมัน NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์เคลื่อนตัวลงมาอยู่ต่ำกว่าระดับ 124 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันนี้ (13 พ.ค.) เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนเทขายทำกำไรในตลาดน้ำมันซึ่งเคลื่อนไหวท่ามกลางปัจจัยหนุนที่แข็งแกร่ง
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนมิ.ย.และได้มีการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลง 37 เซนต์ แตะระดับ 123.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากระดับปิดที่ 124.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวานนี้
ขณะที่น้ำมันดิบตลาดเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับตัวลดลง 14 เซนต์แตะที่ 122.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่ดิ่งลง 2.49 ดอลลาร์ ไปแตะที่ 122.91 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 2 เท่าจากระดับในปีที่ผ่านมาและพุ่งทะยานขึ้น 25% ฝ่าระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลนับตั้งแต่ต้นปีนี้
นักวิเคราะห์ได้กล่าวถึงปัจจัยหลายประการที่ทำให้ราคาน้ำมันถีบตัวสูงขึ้น อาทิ อุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มมากขึ้นจากกลุ่มประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในเอเชียอย่างจีนและอินเดีย รวมถึงการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และการที่โอเปคปฎิเสธการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น
ไมค์ ฟิทซ์แพทริก นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟ โกลบอล กล่าวถึงเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อช่วงที่ผ่านมาว่า "ยังเป็นเรื่องยากที่ราคาน้ำมันจะปรับตัวในช่วงขาลง เนื่องจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้ราคาน้ำมันดิบที่ซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือครองเงินสกุลอื่นๆ
ทั้งนี้ เงินยูโรเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.5515 ดอลลาร์ต่อยูโรในช่วงเช้า จากระดับ 1.5542 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ และอ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.6002 ดอลลาร์ต่อยูโรเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--