ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ที่ดีเกินคาด และหลังจาก เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า ภาวะผันผวนในตลาดการเงินเริ่มคลี่คลายลงแล้ว
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 869.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 15.30 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 861-887.20 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 16.8280 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 39.70 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.ปิดลดลง 1.80 เซนต์ แตะระดับ 3.7315 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 2,073.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 49.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 440.85 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 5.95 ดอลลาร์
เจมส์ สตีล นักวิเคราะห์จากธนาคาร HSBC ในกรุงนิวยอร์กกล่าวว่า "นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งเป็นผลมาจากยอดค้าปลีกที่สดใสเกินคาดของสหรัฐและการแสดงความคิดเห็นในด้านบวกของประธานเฟดที่ว่า ภาวะผันผวนในตลาดการเงินเริ่มผ่อนคลายลงแล้ว และปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดปล่อยกู้จำนองก็ลดน้อยลงแล้ว"
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.2% ส่วนยอดค้าปลีกโดยรวมลดลง 0.2% แตะระดับ 3.781 แสนล้านดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--