ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบพุ่งทำสถิติใหม่ ปิดที่ $126.29

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) เนื่องจากความพยายามของสหรัฐอเมริกาและซาอุดิอาระเบียในการเพิ่มอุปทานยังไม่เป็นที่น่าพอใจ และทำให้เชื่อว่ามีโอกาสที่ราคาจะขยับสูงขึ้นอีก
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.กระโดดขึ้น 2.17 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 126.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดระดับใหม่ และในระหว่างวัน ราคาทะยานขึ้นแตะ 127.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน โดยนับเป็นการบันทึกสถิติใหม่ครั้งที่ 8 จาก 10 วันทำการหลังสุด และเป็นครั้งแรกที่ราคาขยับขึ้นเหนือระดับ 127 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้นทำสถิติใหม่ที่ระดับ 3.2438 ดอลลาร์/แกลลอนในการซื้อขายระหว่างวัน ก่อนที่จะขยับลงมาปิดที่ระดับ 3.2235 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.777 เซนต์
          สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดเพิ่มขึ้น 8.04 เซนต์ แตะระดับ 3.7028 ดอลลาร์/แกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ค.ปิดทะยานขึ้น 2.36 ดอลลาร์ แตะระดับ 124.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
          นักลงทุนไม่สนใจข่าวที่นายอาลี ไนมี รมว.น้ำมันของซาอุดิอาระเบียออกมาบอกว่า ซาอุฯได้เพิ่มการผลิตอีกวันละ 300,000 บาร์เรล ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว เพื่อตอบสนองเสียงเรียกร้องจากลูกค้า นอกจากนี้ตลาดยังมีปฏิกริยาเพียงเล็กน้อยต่อรายงานของกระทรวงพลังงานที่ว่า ทางกระทรวงฯจะยกเลิกการส่งน้ำมันเข้าคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) เป็นเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้
          ผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมน้ำมันไม่แน่ใจว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้น 
          "มันเป็นเรื่องที่ไร้สาระ เพราะผมไม่คิดว่าการทำเช่นนี้จะช่วยทำให้ราคาน้ำมันขยับลงมาได้" ฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์จาก อลารอน เทรดดิ้ง คอร์ฟ กล่าวแสดงความเห็นถึงความเคลื่อนไหวของกระทรวงพลังงานสหรัฐ
          นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวของทางด้านซาอุฯ ก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจน เนื่องจากปริมาณที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวถือว่าเล็กน้อย ซึ่ง Mir Yousufuddin ผู้สังเกตการณ์ราคาน้ำมันดิบให้กับสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐกล่าวว่า "การผลิตเพิ่มอีก 300,000 บาร์เรล ไม่ได้ทำให้เกิดความแตกต่างมากนัก"
          การประกาศของรมว.น้ำมันซาอุฯ มีขึ้นในระหว่างที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐ เดินทางเยือนซาอุฯ เพื่อขอร้องให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกเพิ่มปริมาณการผลิตให้มากขึ้น ทั้งนี้ ซาอุดิอาระเบียมักจะปรับผลผลิตน้ำมันของประเทศให้เป็นไปตามอุปสงค์ และการปรับเพิ่มขึ้นในครั้งนี้ก็เกิดขึ้นพร้อมกับการเริ่มต้นฤดูขับรถท่องเที่ยวในสหรัฐ 
          เทรดเดอร์เชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันจะขยับสูงขึ้นกว่านี้อีก เนื่องจากความต้องการที่พุ่งขึ้นในสหรัฐในช่วงฤดูร้อน ซึ่งปกติแล้วการใช้น้ำมันเบนซีนจะพุ่งขึ้นถึงขีดสุดในช่วงนี้