กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 16 พ.ค.ร่วงลง 5.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 320.4 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 800,000 บาร์เรล แตะระดับ 209.4 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมน้ำมันดีเซลและน้ำมันฮีทติ้งออยล์ เพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล แตะระดับ 107.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะพุ่งขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล
ส่วนอัตราการการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.3% แตะระดับ 87.9% มากกว่าที่คาดว่าจะขึ้นขึ้นเพียง 0.6%
สต็อกน้ำมันข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ ประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปี 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--