รัฐบาลฟิลิปปินส์กระตุ้นบริษัทเอกชนปลูกข้าวหวังลดการนำเข้า

          ฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ออกมากระตุ้นให้บริษัทเอกชนหันมาปลูกข้าว พร้อมเผยว่าทางภาคใต้ของประเทศมีพื้นที่ว่างเปล่าราว 6,000 - 10,000 เฮคเตอร์ (ราว 14,826 เอเคอร์) ที่สามารถปลูกข้าวได้           
          "การลงทุนในด้านนี้น้อยเกินไปทำให้เราไม่สามารถอยู่อย่างพึ่งพาตนเองได้" อาเธอร์ แย็ป รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรให้สัมภาษณ์ โดยเขาเชื่อว่าหากบริษัทเอกชนหันมาปลูกข้าว พวกเขาจะเลี้ยงปากท้องพนักงานในบริษัทและขายข้าวส่วนที่เหลือได้ ช่วยให้ประเทศลดการนำเข้าข้าวได้ในที่สุด
          ปัจจุบันหลายประเทศในเอเชียที่ต้องนำเข้าข้าวกำลังหาทางเพิ่มผลผลิตข้าวเพื่อบรรเทาความกดดันจากราคาข้าวที่พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อันเป็นผลมาจากการจำกัดการส่งออกข้าวของหลายประเทศในขณะที่อุปสงค์ข้าวยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาข้าวที่สูงขนาดนี้ทำให้เกิดความวิตกว่าอาจเกิดภาวะขาดแคลนอาหารและการก่อความไม่สงบขึ้นทั่วโลก          
          "บริษัทเอกชนจะหันมาปลูกข้าวหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะทำกำไรได้หรือไม่" ลูซ ลอเรนโซ นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท ATR-Kim Eng Securities Inc. กล่าว "ผมเชื่อว่าราคาข้าวจะยังอยู่ในระดับสูงไปอีกอย่างน้อย 1 ปี"
          ในขณะเดียวกัน สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเปิดเผยว่า ไทย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าในช่วงปีที่ผ่านมา และยอดส่งออกข้าวของไทยเพิ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,038 เมตริกตันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่ราคาข้าวในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT อยู่ที่ระดับ 19.85 ดอลลาร์/100 ปอนด์ในวันนี้ หลังพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 25.07 ดอลลาร์/100 ปอนด์ เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน