ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 133 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงเช้าวันนี้ (27 พ.ค.) หลังกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนได้เข้าโจมตีท่อส่งน้ำมันของเชลล์ในพื้นที่สามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำไนเจอร์ ประเทศไนจีเรีย ส่งผลให้เกิดน้ำมันรั่วไหลและต้องระงับการผลิตชั่วคราวเพื่อซ่อมแซมรอยรั่ว
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.และได้มีการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ทะยานขึ้น 81 เซนต์ แตะ 133.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ 132.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ปัจจุบัน ไนจีเรียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 8 ของโลก แต่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ผลผลิตน้ำมันของไนจีเรียลดลงกว่า 1 ใน 4 เหลือราว 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน อันเป็นผลมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศ
นอกจากเหตุการณ์ความรุนแรงในไนจีเรียแล้ว การที่กลุ่มโอเปคไม่ยอมเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันก็เป็นอีกสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม นายชากิบ เคลิล ประธานกลุ่มโอเปค กล่าวเมื่อวานนี้ว่า การที่ราคาน้ำมันสูงขึ้นเป็นเพราะการเก็งกำไรจากน้ำมัน ปัญหาการเมือง และเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า ซึ่งทั้งหมดเป็น "ปัจจัยที่อยู่เหนือการควบคุมของกลุ่มโอเปค"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--