ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ร่วงลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญและจะส่งผลให้ความต้องการน้ำมันลดลง
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.และได้มีการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ลดลง 5 เซนต์ แตะระดับ 128.80 ดอลลลาร์/บาร์เรล จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 128.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายวิคเตอร์ ชูม นักวิเคราะห์จากบริษัทเพอร์วิน แอนด์ เกิร์ซ กล่าวว่า "เทรดเดอร์เทขายทำกำไรหลังจากราคาพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอันเนื่องมาจากหลายปัจจัย และในขณะนี้ราคาเริ่มเข้าสู่ภาวะพักฐาน โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนเทขายมาจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ร่วงลงของสหรัฐ และจากการแสดงความคิดเห็นของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ว่า ราคาน้ำมันจะไม่ปรับตัวสูงขึ้นไปกว่านี้"
สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนพ.ค.ร่วงลงแตะระดับ 57.2 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี จากเดือนเม.ย.ที่ระดับ 62.8 จุด และเป็นสถิติที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียล/ไอเอฟอาร์ มาร์เกตส์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 60.0 จุด
นอกจากนี้ Standard & Poor`s/Case-Shiller เปิดเผยว่า ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยของสหรัฐในไตรมาสแรกร่วงลง 14.1% จากสถิติปีที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2531
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--