ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ราคาน้ำมันดิบพุ่งปิดที่ $127.76 หลังโอเปคยืนยันไม่เพิ่มผลิต

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นปานกลางเมื่อคืนนี้ (2 มิ.ย.) เนื่องจากความกังวลที่ว่าปริมาณน้ำมันฮีทติ้งออยล์อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการในสหรัฐ และหลังจากเจ้าหน้าที่โอเปคยืนยันว่าโอเปคยังไม่จำเป็นต้องผลิตน้ำมันเพิ่ม
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น 41 เซนต์ ปิดที่ 127.76 ดอลลาร์/บาร์เรล 
          ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น 4.25 เซนต์ ปิดที่ 3.3907 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.ค.ดีดขึ้น 5.53 เซนต์ ปิดที่ 3.722 ดอลลาร์/แกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 24 เซนต์ ปิดที่ 128.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
          นายฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเอลารอน เทรดดิ้ง ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ เนื่องจากความกังวลที่ว่าอาจเกิดภาวะขาดแคลนพลังงานหลังจากโรงกลั่นหลายแห่งในยุโรประงับการผลิตชั่วคราว 
          "ขณะเดียวกันนักลงทุนมีปฏิกริยาในด้านลบต่อรายงานที่ว่า อิหร่านซึ่งเป็นสมาชิกรายใหญ่ของกลุ่มโอเปคยืนยันว่า โอเปคไม่มีความจำเป็นต้องจัดการประชุมฉุกเฉินหรือเพิ่มการผลิต" นายไฟนน์กล่าว
          คณะกรรมการกำกับดูแลการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดล่วงหน้าของสหรัฐ (CFTC) เปิดเผยว่า กลุ่มเฮดจ์ฟันด์และนักเก็งกำไรลดการคาดการณ์ที่ว่าราคาน้ำมันจะร่วงลง โดยสัดส่วนการคาดการณ์ดังกล่าวลดลงราว 80% นับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่คณะกรรมการ CFTC เริ่มตรวจสอบการซื้อขายในตลาดน้ำมันของสหรัฐแล้ว
          CFTC ระบุว่า ในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 27 พ.ค.ปี 2550 การเข้าซื้อเก็งกำไรในตลาด NYMEX ลดลงแตะระดับ 25,867 สัญญา จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ก.ค.ปี 2550 ที่ 127,491 สัญญา
          นักลงทุนจับตาดูความคืบหน้าของคณะกรรมการ CFTC ที่เร่งตรวจสอบการเก็งกำไรในตลาดน้ำมันของสหรัฐ หลังจากพบว่ามีการทุ่มซื้อสัญญาน้ำมันที่มากเกินไป ตลอดจนการส่งมอบ การกักตุน และการค้าน้ำมันทั่วประเทศที่บิดเบือนไปจากสถานการณ์ความเป็นจริง