ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ราคาน้ำมันดิบร่วงปิดที่ $122.30 หลังสต็อกน้ำมันพุ่งเกินคาด

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่าสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นพุ่งขึ้นเกินคาด
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 2.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 122.30 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตึ้งแต่วันที่ 6 พ.ค.เป็นต้นมา
          ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.ค.ปรับตัวลง 9.38 เซนต์ ปิดที่ 3.5458 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ค.รูดลง 15.74 เซนต์ ปิดที่ 3.1951 ดอลลาร์/แกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 2.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 122.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
          นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบอย่างหนักหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันเบนซินในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 พ.ค.พุ่งขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล หรือ 1.4% แตะระดับ 209.1 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 900,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงน้ำมันดีเซลและฮีทติ้งออยล์ เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 111.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.6 ล้านบาร์เรล
          อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันดิบร่วงลง 4.8 ล้านบาร์เรล หรือ 1.5% แตะระดับ 306.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล
          นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานระบุว่า ความต้องการน้ำมันเบนซินเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 1.4% จากปีที่แล้ว สู่ระดับ 9.3 ล้านบาร์เรล/วัน ส่วนอัตราการกลั่นน้ำมันอยู่ที่ระดับ 89.7% เพิ่มขึ้น 1.8%
          นายเจมส์ คอร์ดิเยร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทลิเบอร์ตี้ เทรดดิ้ง กรุ๊ป กล่าวว่า "นักลงทุนเทขายทันทีเมื่อสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นเกินความคาดหมาย สวนทางกับเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความต้องการน้ำมันได้หนุนราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 135.09 ดอลลาร์/บาร์เรล"
          นักลงทุนจับตาดูความคืบหน้าของคณะกรรมการกำกับดูแลการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดล่วงหน้าของสหรัฐ (CFTC) ที่ตรวจสอบการปั่นราคาในตลาดน้ำมันสหรัฐ พร้อมกับสำรวจพฤติกรรมการทุ่มซื้อสัญญาน้ำมันที่มากเกินไป ตลอดจนการส่งมอบ การกักตุน และการค้าน้ำมันทั่วประเทศที่บิดเบือนไปจากสถานการณ์ความเป็นจริง
          เมื่อวานนี้ จอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน กล่าวในที่ประชุมวุฒิสภาสหรัฐว่า การเก็งกำไรของกลุ่มเฮดจ์ฟันด์เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น พร้อมกับเรียกร้องให้ทางการสหรัฐยื่นมือเข้าตรวจสอบและกำหนดเพดานการเก็งกำไร