ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กทำสถิติพุ่งทะยานก้าวกระโดด 11 ดอลลาร์ฝ่าระดับ 139 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลก่อนเคลื่อนไหวมาปิดที่ 138.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) หลังจากเกิดสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ขณะที่มอร์แกน สแตนลีย์คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันอาจวิ่งขึ้นไปแตะระดับ 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งทะยานขึ้น 10.75 ดอลลาร์ปิดที่ระดับ 138.54 ดอลลาร์ หลังจากที่ระหว่างวันราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 139.12 ดอลลาร์ ซึ่งทุบสถิติราคาน้ำมันที่เคยพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 135.09 เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยราคาน้ำมันถีบทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงเมื่อคืนนี้ หลังจากที่โอเล สโลเลอร์ นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันที่แข็งแกร่งจากกลุ่มประเทศในเอเชียอาจเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะที่ระดับ 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงวันชาติสหรัฐ 4 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะเป็นวันที่ชาวอเมริกันหลายล้านคนออกมาเฉลิมฉลองกันตามท้องถนน
อีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันทำสถิติพุ่งขึ้นสูงสุดถึง 8% ภายในวันเดียวคือ ข่าวความเคลื่อนไหวจากรัฐมนตรีคนสำคัญของอิสราเอลที่ออกมาประกาศว่า อิสราเอลจะเปิดฉากโจมตีอิหร่านหากยังไม่ยอมยุติโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เทรดเดอร์วิตกกังวลว่า สถานการณ์รุนแรงระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลจะส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันในตลาดโลกประสบภาวะชะงักงัน เนื่องจากอิหร่านเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของกลุ่มโอเปค
นอกจากนั้น สิ่งที่เป็นตัวเพิ่มแรงขับดันให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงคือเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง เนื่องจากการเข้าเก็งกำไรของนักลงทุนต่างชาติที่ถือครองสกุลเงินที่แข็งแกร่งในมือรวมถึงการเข้ามาเก็งกำไรของกองทุนเฮดฟันจ์
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันเมื่อคืนนี้ยังเป็นการถีบตัวขึ้นต่อเนื่องจากที่พุ่งขึ้น 5.49 ดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการทำสถิติพุ่งขึ้นสูงสุดในประวัติศาสตร์การซื้อขายน้ำมัน Mymex หลังจากที่ดอลลาร์ร่วงหนักจากการที่ประธานธนาคารกลางยุโรปส่งสัญญาณว่าอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์ร่วงลงทันทีเมื่อเทียบกับยูโร และทำให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์กันอย่างคับคั่งโดยเฉพาะสัญญาน้ำมัน เพราะดอลลาร์ที่อ่อนค่าทำให้สัญญาน้ำมันที่ซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีราคาถูกลง โดยเมื่อคืนนี้ เงินยูโรยังแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า อัตราว่างงานสหรัฐพุ่งขึ้นไปแตะที่ระดับ 5.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี และภาวะดังกล่าวอาจฉุดรั้งให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า การที่ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นจากปีที่แล้วถึง 2 เท่า
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล โทร.0-2253-5050 อีเมล์: orasa@infoquest.co.th--