ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวานนี้ (9 พ.ค.) สัญญาข้าวโพดยังทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องทำระดับสูงสุดระดับใหม่ 3 วันทำการติดต่อกัน หลังจากที่น้ำฝนได้เข้าท่วมพื้นที่ปลูกข้าวโพดในแถบมิดเวสท์ของสหรัฐ
เกษตรกรกำลังวิตกว่า ฝนที่ตกลงมามากเกินไปอาจทำลายต้นข้าวโพดที่เพิ่งปลูกไป ทำให้ผลผลิตข้าวโพดลดลง และส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อจากราคาอาหารที่สูงอยู่แล้วยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วราคาข้าวโพดรายสัปดาห์ได้ปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
ซ้ำร้ายกว่านั้น นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาข้าวโพดจะสูงขึ้นอีก เนื่องจากกรมอุตุฯ พยากรณ์ว่าสภาพอากาศจะแย่ลงอีกในช่วงปลายสัปดาห์นี้
"ถ้าฝนยังตกมากขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ ราคาข้าวโพดก็จะสูงขึ้นอีกอย่างแน่นอน" เจสัน วาร์ด นักวิเคราะห์จากนอร์ธสตาร์ คอมโมดิตี้ กล่าว
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค.บวก 6.5 เซนต์ ปิดที่ 6.5725 ดอลลาร์ต่อบุชเชล หลังจากที่พุ่งทำระดับสูงสุดระดับใหม่ที่ 6.6725 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ปีนี้เกษตรกรจะปลูกข้าวโพดบนพื้นที่ราว 86 ล้านเอเคอร์ แต่สภาพอากาศที่เลวร้ายในแถบมิดเวสท์ทำให้พื้นที่กว่า 4 ล้านเอเคอร์ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ และถ้าไม่มีการเพาะปลูกในพื้นที่ที่เหลือภายในวันที่ 10 มิ.ย. เกษตรกรก็จะปล่อยให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ว่างเปล่าเพื่อรับเงินประกัน หรืออาจหันไปปลูกถั่วเหลืองแทน
ปัจจัยดังกล่าวจะทำให้ราคาข้าวโพดพุ่งสูงขึ้นไปอีก ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคต้องเสียเงินมากขึ้นในการซื้อเนื้อวัวและเนื้อหมู เนื่องจากข้าวโพดเป็นอาหารหลักในการเลี้ยงปศุสัตว์
อย่างไรก็ตาม สัญญาพืชผลอื่นปรับตัวลดลง โดยสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค.ร่วง 22.5 เซนต์ ปิดที่ 7.885 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ในขณะที่สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค.ขยับลง 5.5 เซนต์ ปิดที่ 14.52 ดอลลาร์ต่อบุชเชล สำนักข่าวเอพีรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--