ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.) หลังจากที่กลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปคได้ลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันปี 2551 ลง 60,000 บาร์เรลต่อวัน และจากปัจจัยค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค.ปิดร่วงลง 1.88 ดอลลาร์ ปิดที่ 134.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 10.59 เซนต์ ปิดที่ 3.8368 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ค.ตกลง 1.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 134.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
กลุ่มผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปค กล่าวในรายงานประจำเดือนนี้ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่จะชะลอตัวในสหรัฐอเมริกาและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์จะส่งผลให้ความต้องการน้ำมันในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ลดลง
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า โอเปค ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมัน 1 ใน 3 ของผลผลิตทั่วโลก ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปี 2551 ลง 60,000 บาร์เรลต่อวัน จากระดับความต้องการ 86.9 ล้านบาร์เรล/วันที่ประเมินไว้ในเดือนก่อน
"เศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลงและสถานการณ์ราคาน้ำมันในปัจจุบันจะส่งผลต่อความต้องการน้ำมันในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ไม่เพียงแต่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทุกประเทศในกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) ด้วย" นักวิเคราะห์ของโอเปคกล่าว
โอเปคคาดว่าความต้องการน้ำมันของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่จะเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ แม้หลายประเทศในเอเชียได้ตัดสินใจยกเลิกการให้เงินอุดหนุนราคาน้ำมัน แต่คาดว่าความต้องการน้ำมันของประเทศนอกกลุ่ม OECD จะสามารถชดเชยความต้องการที่ลดลงในสหรัฐ ยุโรป และแปซิฟิกได้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--