ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 5 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) หลังจากมีข่าวว่ารัฐบาลจีนประกาศขึ้นราคาเชื้อเพลิงภายในประเทศ ซึ่งนักลงทุนมองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันโดยรวมในเอเชียและทั่วโลกปรับตัวลงด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 4.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 131.93 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 131.60-137.82 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.ค.รูดลง 14.65 เซนต์ ปิดที่ 3.7135 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ค.ดิ่งลง 11.41 เซนต์ ปิดที่ 3.3526 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.ดิ่งลง 4.44 ดอลลาร์ ปิดที่ 132 ดอลลาร์/บาร์เรล
เจมส์ คอร์ดิเยร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทลิเบอร์ตี้ เทรดดิ้ง กรุ๊ป ในรัฐฟลอริดา กล่าวว่า นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากมีข่าวว่า รัฐบาลจีนประกาศขึ้นราคาน้ำมันเบนซินและเชื้อเพลิงดีเซล 16% และ 18% ตามลำดับ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันศุกร์ที่ 20 มิ.ย.
"ที่ผ่านมาความต้องการน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในจีนส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงมาเป็นเวลาหลายปี โดยเฉพาะในช่วงหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในจีน แต่การที่รัฐบาลจีนประกาศขึ้นราคาน้ำมันอาจทำให้ความต้องการน้ำมันลดลง และถือเป็นมาตรการเชิงจิตวิทยาที่จะสกัดกั้นความต้องการน้ำมันไม่ให้สูงขึ้นมากเกินไป" คอร์ดิเยร์กล่าว
ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเอลารอน เทรดดิ้งในเมืองชิคาโกกล่าวว่า "หากความต้องการน้ำมันในจีนลดลง ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดราคาน้ำมันร่วงลงด้วย ซึ่งความกังวลในเรื่องนี้ทำให้นักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาน้ำมันดิบอย่างหนัก โดยไม่สนใจข่าวการปิดแท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทเชลล์ในไนจีเรีย"
"นอกจากนี้ การที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบ" ไฟนน์กล่าว
บริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ ประกาศปิดแท่นขุดเจาะน้ำมันในไนจีเรียซึ่งมีกำลังการผลิต 200,000 บาร์เรล/วัน เมื่อวานนี้ หลังจากกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนเข้าโจมตีแท่นขุดเจาะของเชลล์ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากภาคพื้นดินกว่า 65 ไมล์ อย่างไรก็ตาม กลุ่มกบฏไม่สามารถเข้าโจมตีห้องควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทเชลล์ได้ หลังจากที่วางแผนไว้ว่าจะโจมตีระบบคอมพิวเตอร์เพื่อทำลายระบบการผลิตให้ได้รับความเสียหาย
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จับตาดูความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ ที่เรียกร้องสภาคองเกรสให้ยกเลิกคำสั่งห้ามขุดเจาะน้ำมันและแก๊สนอกชายฝั่ง เพื่อเปิดโอกาสให้มีการสำรวจและขุดเจาะน้ำมันมากขึ้น และเพื่อสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน
บุชกล่าวที่ทำเนียบขาวว่า "ราคาน้ำมันและแก๊สที่พุ่งสูงขึ้นกำลังส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันจำนวนมาก สภาคองเกรสต้องเผชิญความท้าทายที่หนักหน่วงในเรื่องนี้ นอกเสียจากจะยอมรับทางเลือกใหม่คือ ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--