คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีนออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลจีนจะปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลขึ้นอีก 16% และ 18% ตามลำดับ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซินยืนอยู่ที่ระดับ 6,980 หยวน/ตัน และดีเซลอยู่ที่ระดับ 6,520 หยวน/ตัน โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 20 มิ.ย.เป็นต้นไป
คณะกรรมการฯระบุว่า การประกาศขึ้นราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลครั้งแรกในรอบ 8 เดือนในครั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะลดช่องว่างระหว่างราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกและราคาน้ำมันภายในประเทศ นอกจากนี้ คณะกรรมการฯยังประกาศขึ้นราคาไฟฟ้าอีก 2.5%ต่อกิโลวัตต์ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป
วาณิชธนกิจ ไชนา อินเตอร์เนชันแนล แคปิตอล คอร์ปอเรชัน (CICC) กล่าวว่า "การปฏิรูประบบการกำหนดราคาน้ำมันในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์กับจีนเท่านั้น และยังส่งผลในด้านบวกต่อประเทศอื่นๆทั่วโลก ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากนโยบายการกำหนดราคาพลังงานของจีน เนื่องจากปริมาณการใช้น้ำมันของจีนคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 40% ของปริมาณการใช้น้ำมันทั้งหมดของโลก"
นอกจากนี้ CICC แสดงความเห็นว่า หากจีนตัดสินใจขึ้นราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันอีก 50% ในช่วงกลางปี 2551 ก็อาจทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกร่วงลงแตะระดับ 110 ดอลลาร์/บาร์เรลภายในปลายปี 2551 และอาจร่วงลงแตะระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีหน้า
นายซี จินปิง รองประธานาธิบดีจีน มีกำหนดเดินทางเข้าร่วมประชุมพลังงานระหว่างประเทศที่ซาอุดิอาระเบียในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อหาแนวทางยับยั้งการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ข่าวการประกาศขึ้นราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลของจีน เป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงลง 4.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 131.93 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อคืนนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--