ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 9 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) หลังจากราคาน้ำมันดิบดิ่งลงอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ราคาทองสามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้เพราะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 9.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 882.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 892.90-875.20 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 13.00 เซนต์ ปิดที่ 16.503 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.รูดลง 1.35 เซนต์ ปิดที่ 3.773 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 2,013.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 11.50 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 465.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 6.95 ดอลลาร์
คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด มีมติคงอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น (fed funds rate) ไว้เท่าเดิมที่ 2.00% และคงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (discount rate) ที่ 2.25% แต่เฟดกล่าวในแถลงการณ์ภายหลังการประชุมว่า "อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นปานกลางในปีนี้และปีหน้า เนื่องจากราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง"
บิล โอนีล นักวิเคราะห์จากบริษัท ลอจิก แอดไวซอรีส์ ในรัฐนิวเจอร์ซีกล่าวว่า "ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงลงอย่างหนัก 2.45 ดอลลาร์ แตะระดับ 134.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งสร้างแรงกดดันให้กับราคาทองคำด้วย แต่การที่เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.00% ทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ซึ่งช่วยพยุงราคาทองให้สามารถถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--