ราคาน้ำมัน NYMEX ขยับลงแตะ $134.47 หลังอุปสงค์เชื้อเพลิงในสหรัฐชะลอตัว

          สัญญาน้ำมัน NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ขยับลดลงเล็กน้อยในเช้าวันนี้ (26 มิ.ย.) หลังจากที่ปรับตัวลงกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานว่า ความต้องการน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2550 เนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์กดดันให้มีการซื้อน้ำมันได้น้อยลง
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.และได้มีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ขยับลง 8 เซนต์แตะที่ระดับ 134.47 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้านี้ จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ร่วงลง 2.45 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 134.55 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 139.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา
          กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า ความต้องการเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยในช่วงเดือนที่ผ่านมาร่วงลง 2.3% จากปีก่อนหน้านี้สู่ระดับ 20.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยในปีนี้ปริมาณการใช้น้ำมันดิ่งร่วงลง 5% จากระดับสูงสุดที่ 21.3 ล้านบาร์เรลต่อวันที่ระบุเมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ราคาค้าปลีกน้ำมันเบนซินไต่ระดับขึ้น 31% จากช่วงเวลาเดียวกัน
           "ความต้องการน้ำมันที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด มีส่วนทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง" เจอร์ราด เบอร์ก นักวิเคราะห์จาก National Australia Bank Ltd กล่าว "อุปสงค์น้ำมันโดยรวมกำลังปรับตัวลดลง"
          ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 9.28 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลง 2.1% จากปีที่ผ่านมา ขณะที่มาสเตอร์การ์ด อิงค์ระบุในรายงานเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ว่า ยอดซื้อเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์ลดลง 2.7% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งนับเป็นสถิติการลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 9