ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 5 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) โดยในระหว่างวัน ราคาทะยานขึ้นเหนือระดับ 140 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากประธานกลุ่มโอเปคคาดว่าราคาน้ำมันมีแนวโน้มพุ่งขึ้นเหนือระดับ 150 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ และจากข่าวที่ว่าลิเบียอาจลดปริมาณการผลิตน้ำมัน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 5.09 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 139.64 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับ 140.39 ดอลลาร์ในระหว่างวัน
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ค.ดีดขึ้น 11.72 เซนต์ ปิดที่ 3.5113 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 13.42 เซนต์ ปิดที่ 3.8834 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 5.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 139.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนกระหน่ำซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคึกคัก หลังจากนายชากิบ คาลิล รัฐมนตรีพลังงานแอลจีเรีย ในฐานะประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกอาจจะปรับตัวสูงขึ้นถึงระดับ 150 - 170 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในช่วงเวลาที่ประเทศตะวันตกเข้าสู่ฤดูร้อน
จิม ริทเทอร์บุช หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัทริทเทอร์บุช แอนด์ แอสโซซิเอทส์กล่าวว่า "ราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้เคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับเมื่อเดือนพ.ค. โดยในช่วงเวลานั้นราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากนายอาร์จัน เอ็น. เมอร์ตี หัวหน้าทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบอาจพุ่งแตะระดับ 150-200 ดอลลาร์/บาร์เรลภายในระยะเวลา 2 ปีข้างหน้า ซึ่งป็นผลมาจากอุปทานน้ำมันที่ไม่สามารถขยายตัวได้ทันกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง"
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กตื่นตระหนกมากขึ้นหลังจากบริษัทน้ำมันของรัฐบาลลิเบียเปิดเผยว่า ลิเบียอาจจะลดปริมาณการผลิตน้ำมันเนื่องจากน้ำมันในตลาดโลกมีปริมาณที่เพียงพอ
เจมส์ คอร์ดิเยร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทลิเบอร์ตี้ เทรดดิ้ง ในรัฐฟลอริด้า กล่าวว่า "อีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงคือสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนส.ค."
"นักลงทุนบางกลุ่มมองว่าเฟดขาดจุดยืนและความเคลื่อนไหวของเฟดก็ไม่ค่อยมีอิทธิพลต่อตลาดเหมือนช่วงที่ผ่านมา" คอร์ดิเยร์กล่าว
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 20 มิ.ย. เพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล แตะระดับ 301.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 100,000 บาร์เรล แตะระดับ 208.8 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงดีเซลและฮีทติ้งออยล์เพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 119.4 ล้านบาร์เรล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--